fbpx

บริษัท seo ที่ใช่ รับทํา seo ให้เว็บไซต์ติดหน้าแรก รองรับเทรนด์การค้นหาของคนไทย

บริษัท SEO ที่ใช่ผลักดันเว็บไซต์สู่หน้าแรกของ Google การทำ SEO คงเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์เครื่องมือแรกๆ ที่เจ้าของกิจการนึกถึงเมื่อเริ่มทำการตลาดบนโลกออนไลน์ เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งแรกที่ผู้บริโภคในปัจจุบันทำเมื่อต้องการค้นหาข้อมูลเรื่องใดๆ ก็คือการค้นหาบน Search engine ยอดนิยมอย่าง Google นั่นเอง ธุรกิจต่างๆ จึงไม่ควรพลาดโอกาสในการทำให้เว็บไซต์หรือสินค้าปรากฏบนหน้าแสดงผลการค้นหา 

นอกจากนี้ อย่างที่คุณอาจจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ บนหน้าการค้นหานั้นเราจำเป็นจะต้องใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง และมีแนวโน้มว่าจะมีคนค้นหาด้วยคำนั้นๆ การใช้บริการบริษัทรับทำ SEO จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญจะมีเทคนิคการใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมได้อย่างดี และรองรับเทรนด์การค้นหาของคนไทย ไปดูกันว่าในปี 2022 ที่ผ่านมาจะมีคีย์เวิร์ดไหนที่คนไทยค้นหามากที่สุดบ้าง แล้วบริษัทรับทำ seo อย่างที่ Vault Mark จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับได้อย่างไร ติดตามได้ในบทความนี้

การ Search ของคนไทยในปี 2022

ในแต่ละปีทาง Google มักจะมีสรุปคำค้นหายอดฮิตประจำปี 2565 หรือ Year in Search ที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตค้นหามากที่สุดบน Search Engine ของ Google ซึ่งจะเผยให้เห็นภาพรวมว่าคนไทยสนใจเรื่องอะไรบ้าง ตลอดปีที่ผ่านมา สำหรับปี 2565 ที่ผ่านมานี้ คำค้นหายอดนิยม 10 อันดับของคนไทย ได้แก่

1) บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

2) แตงโม นิดา

3) คนละครึ่ง เฟส 5

4) ใต้หล้า

5) คังคุไบ

6) Botnoi Voice

7) Wordle

8) ด้วยรักและหักหลัง

9) คือเธอ

10) ศธ 02

แสดงให้เห็นว่า คนไทยให้ความสำคัญกับโครงการของรัฐเป็นอย่างมาก โดยคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับโครงการรัฐบาลได้ครองแชมป์อยู่อันดับหนึ่งมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว อีกทั้งคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับสิ่งบันเทิงก็ได้รับความนิยมมากไม่แพ้กัน อย่างไรก็ตาม มักจะมีคีย์เวิร์ดยอดฮิตตลอดกาลที่ลูกค้ามักจะใช้เสมอเมื่อต้องการหาข้อมูลใดๆ โดยในธุรกิจแต่ละประเภทหรือธุรกิจจากต่างอุตสาหกรรมก็มักจะมีคีย์เวิร์ดยอดฮิตประจำธุรกิจที่ต่างกัน 

ค้นหาด้วยคำว่า “near me” (ใกล้ฉัน)

มาเริ่มต้นกันที่คำแรก “near me” หรือ ใกล้ฉัน เป็นคำค้นหาที่ผู้บริโภคมักจะพิมพ์ต่อท้ายสิ่งที่ต้องการอยากจะหา โดยคำว่า “near me” หรือ ใกล้ฉัน นี้มักจะนิยมใช้ค้นหาบริการต่างๆ โดยจะพิมพ์คำว่า “near me” หรือ ใกล้ฉัน ต่อท้ายบริการนั้นๆ ที่ต้องการค้นหา ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการค้นหาร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆ เราก็จะค้นหาด้วยคำว่า “ร้านอาหารใกล้ฉัน” นั่นเอง ดังนั้น คำว่า “near me” หรือ ใกล้ฉัน นี้มักจะนิยมใช้ในการทำ SEO สำหรับธุรกิจร้านค้าปลีกต่างๆ มากไปกว่านั้น อ้างอิงจาก Think it with Google พบว่าในปีที่ผ่านมา คนไทยค้นหาข้อมูลร้านค้าต่างๆ ด้วยคำว่า  “near me” หรือ ใกล้ฉัน มากขึ้นถึง 80% เลยทีเดียว และที่พิเศษไปกว่านั้นคำว่า “restaurants near me” มีปริมาณการค้นหาเพิ่มมากขึ้นถึง 100% ดังนั้น ธุรกิจต่างๆ จึงไม่ควรพลาดโอกาสนี้ในการทำให้ร้านค้าหรือธุรกิจค้นพบได้ง่ายๆ ผ่านการค้นหาใน Google  

ค้นหาด้วยคำว่า “sustainability” (ความยั่งยืน)

มาต่อกันที่คำต่อมาที่คนไทยใช้ในการค้นหากันมากขึ้น หลายปีที่ผ่านมานี้หากคุณเป็นคนที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตอยู่เป็นประจำ คุณอาจได้ยินคำว่า “sustainability” (ความยั่งยืน) กันอยู่บ่อยๆ เนื่องจากผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องความยั่งยืนกันมากขึ้นและมีแนวโน้มนำเรื่องความยั่งยืนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันกันมากขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจภาคเทคโนโลยี ซึ่งมีข้อมูลจาก Think it with Google เช่นกัน ที่บอกว่าคนไทยค้นหาเกี่ยวกับ “Sustainability” (ความยั่งยืน) เพิ่มขึ้นมาถึง 43% เลยทีเดียว โดยเฉพาะคำว่า “Sustainable Fashion” ที่เพิ่มมากถึง 90% จากข้อมูลนี้จะเห็นได้ว่าผู้บริโภคใส่ใจเรื่องนี้กันมากขึ้น จึงเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องในการเริ่มต้นทำ SEO โดยใช้คีย์เวิร์ดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Sustainability 

ค้นหาด้วยคำว่า “fear and greed index” (ดัชนีความกลัวและความโลภ)

มาต่อกันที่ธุรกิจภาคการเงิน การค้นหาด้วยคำว่า “fear and greed index หรือ ดัชนีความกลัวและความโลภ” ก็เป็นอีกหนึ่งคีย์เวิร์ดที่ผู้คนมักนิยมใช้ค้นหากันมากในปีที่ผ่านมา เนื่องจากคนไทยสนใจเรื่องการเงิน การลงทุนกันมากขึ้นในปีที่แล้ว โดยเฉพาะในสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเมื่อปีก่อน ซึ่ง fear and greed index นี้คือเครื่องมือที่จะบอกนักลงทุนได้ว่าตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลง เป็นตัวช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจด้านการลงทุนได้อีกหนึ่งทาง และในปี 2565 ที่ผ่านมาคำว่า “fear and greed index หรือ ดัชนีความกลัวและความโลภ” นี้ได้รับการค้นหาโดยคนไทยมากขึ้นกว่า 11 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าหรือปี 2564 จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับธุรกิจการเงินที่จะทำคอนเทนต์ SEO ที่เกี่ยวข้องโดยใช้คีย์เวิร์ดเป็นคำว่า “fear and greed index หรือ ดัชนีความกลัวและความโลภ” และให้ความรู้เรื่องการลงทุนเพื่อเพิ่มความน่าจดจำและน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจคุณ

ค้นหาด้วยคำว่า “virtual try on” (ลองเสื้อผ้าแบบเสมือนจริง)

มาถึงวงการแฟชั่นหรือธุรกิจค้าปลีก ลูกค้าในยุคอินเทอร์เน็ตอย่างในปัจจุบันมักจะคาดหวังประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ที่ไร้รอยต่อ เพื่อให้การเลือกซื้อสินค้าในออนไลน์เปรียบเสมือนการได้ไปซื้อที่หน้าร้านจริง virtual try on (ลองเสื้อผ้าแบบเสมือนจริง) จึงเป็นอีกหนึ่งคีย์เวิร์ดที่มีการค้นหามากขึ้นในปีก่อน โดยข้อมูลจาก Think with Google ระบุว่าคนไทยค้นหาด้วยคำนี้มากขึ้น 150% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลเช่นวันตรุษจีน แสดงให้เห็นว่าลูกค้าใส่ใจเรื่องประสบการณ์การช้อปปิ้งกันมากขึ้น ธุรกิจค้าปลีกจึงไม่ควรพลาดโอกาสในการนำเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อให้ทัดเทียมและสามารถเป็นผู้นำเหนือกว่าคู่แข่ง และที่สำคัญอย่าลืมทำ SEO และใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวเพื่อให้แบรนด์ของคุณเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

ค้นหาด้วยคำว่า “จองคิว” (book a queue) และ “แอพจอง” (booking app)

ในปีที่ผ่านมาเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายลงอาจเป็นผลทำให้คนไทยกล้าออกมาใช้ชีวิตกิน ช้อป เที่ยวกันมากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจว่าจะมีการค้นหาด้วยทำว่า “จองคิว” (book a queue) และ “แอพจอง” (booking app) มากขึ้น โดยมีข้อมูลจาก Google ระบุว่า คนไทยค้นหาด้วยคำว่าจองคิวมากขึ้นถึง 125% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีการค้นหาด้วยคำว่า แอพจอง มากขึ้นถึง 60% จึงเป็นโอกาสทองของธุรกิจภาคเทคโนโลยี และผู้ให้บริการด้านการจองคิวใช้บริการต่างๆ ในการเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าด้วยการทำ SEO ด้วยคีย์เวิร์ดเหล่านี้ 

ค้นหาด้วยคำว่า “buy now pay later” (ซื้อตอนนี้และจ่ายทีหลัง) และ “pay later” (จ่ายทีหลัง)

นอกจากนี้ เพื่อตอบรับการกลับมาใช้ชีวิตและจับจ่ายใช้สอยของคนไทย data ของปีก่อนแสดงให้เห็นว่าคนไทยค้นหาด้วยคำว่า buy now pay later และ pay later มากขึ้น 4 และ 1.8 เท่าจากปีก่อนหน้า ธุรกิจหรือผู้ให้บริการด้านการเงินจึงควรเริ่มจับตามองเทรนด์นี้ และนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจเพื่อให้เท่าทันความต้องการของผู้บริโภค

นวัตกรรม Search ล่าสุด ส่งผลต่อการตลาดออนไลน์ 2023 อย่างไร

อย่างที่เราเน้นย้ำอยู่เสมอว่าลูกค้าในปัจจุบันคาดหวังการค้นหา การช้อปปิ้ง หรือการทำธุรกรรมบนโลกออนไลน์อย่างไร้รอยต่อ และเทียบเท่าการออกไปเลือกซื้อหรือทำธุรกรรมที่หน้าร้าน การนำเครื่องมือทางการตลาดและนวัตกรรมการ Search ใหม่ๆ มาปรับใช้จะเข้ามาช่วยทำให้ธุรกิจสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นตัวแปรที่จะทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป และหันมาช้อปปิ้งออนไลน์มากยิ่งขึ้น ในทางเดียวกัน สำหรับแบรนด์และธุรกิจต่างๆ ก็จะมีการแข่งขันบนโลกออนไลน์ที่เข้มข้นขึ้น เพราะทุกคนต่างก็ต้องการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับกลุ่มลูกค้าในสินค้าและบริการต่างๆ เพราะหากไม่นำนวัตกรรมใหม ๆ มาปรับใช้ก็อาจทำให้ไม่สามารถตามคู่แข่งได้ทัน 

เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้นด้วย Multisearch

Google เป็น Search Engine ที่เน้นประสบการณ์ที่ดีในการค้นหาข้อมูล จึงมีการอัปเดตและนำเสนอฟีเจอร์ใหม่อยู่เสมอทั้งสำหรับลูกค้าและธุรกิจ Multisearch ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่จะเข้ามาช่วยให้การค้นหาข้อมูลสะดวกสบาย และทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่ Search นั้นมีประโยชน์อย่างมากในการช้อปปิ้ง Multisearch จึงเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อมวิธีใหม่ในการ Search โดยสามารถใช้ภาพและข้อความไปพร้อมกันได้ ซึ่งในขณะนี้มีการให้บริการทั่วโลกแล้ว และกำลังจะรองรับทุกภาษาในเวลาอันใกล้นี้ ทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อของออนไลน์ได้ง่ายยิ่งขึ้นไปอีก 

มากไปกว่านั้น นักการตลาดของธุรกิจต่างๆ ยังสามารถใช้ประโยชน์จากการ Search ด้วยภาพ มาประยุกต์และพัฒนาทำให้โฆษณาดูมีชีวิตชีวาขึ้นและน่าสนใจในหมู่ผู้บริโภคให้ได้มากยิ่งขึ้น ทำให้ธุรกิจสามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าได้ดียิ่งกว่าเดิมด้วย Business Messages ให้ลูกค้าส่งข้อความหาแบรนด์ผ่านโฆษณา Search ได้เลยทันที 

รับโอกาสใหม่ๆ ด้วย Automation

อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่า Google เป็น Search Engine ที่พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ อยู่เสมอเพื่อประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน ทั้งสำหรับลูกค้าและนักการตลาด ล่าสุด Google ได้พัฒนาระบบอัตโนมัติ (Automation) ของโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Google ให้ดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจสามารถก้าวทันความต้องการ และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างเรียลไทม์ โดยเฉพาะเครื่องมือ Broad match ที่จะช่วยจับคู่คีย์เวิร์ดกับความตั้งใจในการค้นหาของผู้ใช้งานได้ดีขึ้นอย่างมาก ทำให้ธุรกิจค้นพบโอกาสใหม่ๆ ได้

ช็อปได้ง่ายๆ ด้วย Shop the look และ 3D

ปัจจุบันประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์มีผลต่อความพึงพอใจ และการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของเทคโนโลยีอย่างเช่นในปัจจุบันที่มีการปรับแต่งฟีเจอร์ต่างๆ บนหน้าร้านออนไลน์ เพื่อความสะดวกสบายและประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อของลูกค้า Shop the look ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ถือเป็นการมอบประสบการณ์ที่ดีที่จะช่วยให้ลูกค้าช้อปปิ้งสินค้าออนไลน์ได้ง่ายมากขึ้น โดย Shop the look เหมาะกับสินค้าประเภทแฟชั่นหรือเสื้อผ้าต่างๆ เป็นอย่างมาก เนื่องจาก shop the look คือการที่แบรนด์ดีไซน์เว็บไซต์หรือหน้าร้านออนไลน์ให้เหมือนแม็กกาซีนที่ลูกค้าสามารถเลือกดูลุคต่างๆ ที่ประกอบไปด้วยสินค้าของแบรนด์ให้ลูกค้าได้เห็นภาพและเลือกซื้อสินค้าได้ตามชอบ shop the look ถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้าได้มองเห็นภาพและช้อปสินค้าแฟชั่นได้สนุกยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการซื้อได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย 

แบรนด์หรือธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะในวงการแฟชั่นและไลฟ์สไตล์จึงไม่ควรพลาดการทำ shop the look เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า และทำ SEO เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นไปอีก 

บริษัท SEO ที่ใช่ รับทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดหน้าแรก เลือกอย่างไร

ในการเลือกบริษัท SEO คุณควรจะต้องเลือกจากผู้ให้บริการรับทำ SEO สายขาวที่มากประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญด้าน Technical SEO และเข้าใจการทำงาน หลักการทำเว็บไซต์ รวมถึง algorithm ของ Google ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งควรเลือกบริษัท SEO ที่โฟกัสผลลัพธ์ในแง่ของการเพิ่มรายได้และสร้าง awareness ให้บริษัทของคุณได้อย่างยั่งยืน ปลอดภัย และมีคุณภาพสูง 

บริษัทรับทำ SEO สำหรับธุรกิจ B2C

บริษัทรับทำ SEO สำหรับธุรกิจ B2C คือการที่บริษัทจะทำ SEO ให้กับธุรกิจโดยมุ่งเน้นสื่อสารกับลูกค้าโดยตรง ซึ่งจะต่างจากแบบ B2B ที่เป็นการสื่อกันระหว่างธุรกิจ ในการทำ SEO สำหรับธุรกิจ B2C จำเป็นจะต้องใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญที่มีความเข้าใจในเทรนด์ พฤติกรรม และด้านอื่นๆ ของผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าในอนาคต หรือ potential consumer เพื่อให้สามารถใช้คีย์เวิร์ดได้อย่างเหมาะสม และถูกต้องกับธุรกิจต่างๆ นั่นเอง

SEO สำหรับ Facebook (Facebook SEO)

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะคิดว่าการทำ SEO นั้นสามารถทำได้แค่เพียงในเว็บไซต์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ที่จริงแล้วการทำ SEO นั้นสามารถทำบนแพลตฟอร์มอื่นอย่างเช่น Facebook หนึ่งในแพลตฟอร์ม Social Media ยอดนิยมในประเทศไทยได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะธุรกิจที่ยังไม่มีหน้าเว็บไซต์ ก็สามารถใช้ Facebook เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยใช้คีย์เวิร์ด

มากไปกว่านั้น มีสถิติจาก Hootsuite ระบุว่า ประเทศไทย มีบัญชีผู้ใช้งาน Facebook อยู่มากกว่า 50 ล้านบัญชีเลยทีเดียว Facebook จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่แข็งแกร่งที่ธุรกิจต้องเข้ามามีส่วนร่วมถ้าไม่อยากพ่ายแพ้ให้กับคู่แข่ง และการทำ SEO สำหรับ Facebook จะมีขั้นตอนอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย

  • วิเคราะห์และเลือกใช้ Keyword ที่เหมาะสมสำหรับการทำ SEO 
  • สำหรับคีย์เวิร์ดที่ดีคือคีย์เวิร์ดที่ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะใช้ค้นหาเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของคุณ แต่ก็ควรระมัดระวังในการใช้คีย์เวิร์ดที่กว้างเกินไปเพราะอาจทำให้ลูกค้าค้นหาเจอได้ยาก เนื่องจาก Facebook ไม่สามารถปรับแต่งองค์ประกอบต่างๆ สำหรับการทำ SEO ได้มากเท่าเว็บไซต์ จึงควรใช้คีย์เวิร์ดที่เฉพาะเจาะจง หรืออย่างที่หลายคนรู้จักกันว่า Long-tail keyword นั่นเอง นอกจากนี้ ในการเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม เราสามารถใช้เครื่องมือเช่น Google Keyword Finder หรือ KWFinder ได้ เพื่อความสะดวกสบายและแม่นยำ 
  • ตั้งชื่อแฟนเพจหลักและ URL ให้เหมาะสม
  • สำหรับชื่อแฟนเพจ ก็ควรตั้งให้ตรงกับคีย์เวิร์ดที่ลูกค้ามักจะใช้สำหรับการค้นหาบน Search Engine เช่นเดียวกัน เพื่อเพิ่มโอกาสให้แฟนเพจของคุณได้ขึ้นเป็นอันดับบนๆ ในหน้าแสดงผลการค้นหาของ Google
  • ใส่ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจให้ครบถ้วน
  • อย่าลืมใส่ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทของคุณให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่ เบอร์โทร หมวดหมู่ และถ้าหากมีเว็บไซต์ก็ควรใส่เว็บไซต์ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ สำหรับธุรกิจที่มี Facebook Business Profile แล้ว ควรไปลงทะเบียนโดเมนในหน้า Business Information เพื่อให้ Facebook รู้จักหน้าเว็บไซต์ของคุณ
  • ทำ Backlink ให้ลูกค้ากดเข้ามาเยี่ยมชม Facebook ของแบรนด์ 
  • การทำ Backlink คือการให้ลูกค้ากดลิงก์จากเว็บไซต์อื่นเข้ามายัง Facebook ของแบรนด์ โดยเราอาจจะนำลิงก์ Facebook ไปใส่ไว้ยังบทความหรือร้านค้าออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าค้นพบ Facebook ของแบรนด์ได้  
  • เพิ่มปุ่ม CTA หรือ Call-to-Action
    • การเกิ่มปุ่ม CTA จะเป็น อีกหนึ่งตัวช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย take action บางอย่างที่เป็นผลดีให้กับแบรนด์ ยกตัวอย่างเช่น ติดต่อเรา ซื้อเลย สมัครเลย เป็นต้น
  • อย่าลืมใช้ Hashtag เพิ่มการมองเห็น
    • Hashtag เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้กลุ่มเป้าหมายค้นพบ Facebook Page ของสินค้าหรือบริการเราได้ โดยในการเลือก hashtag ควรเลือกอคำที่สั้นกระชับและเกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจของคุณ 

SEO สำหรับ YouTube (YouTube SEO)

YouTube คือบริการที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับ Video Sharing หรือการแบ่งปันวิดีโอรูปแบบต่างๆ ที่เป็นที่ยอดนิยมในประเทศไทยเช่นกัน โดยมีข้อมูลจาก Hootsuite เปิดเผยว่า YouTube มีผู้เข้าชมเฉลี่ย 1.7 ล้านคนต่อเดือน และยังเป็นเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจาก Search Engine เจ้าดังอย่าง Google อีกด้วย YouTube จึงเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มสำหรับการสื่อสารกับลูกค้าที่ได้ผลดี 

การทำ YouTube SEO ก็เป็นอีกทางที่จะช่วยให้ลูกค้าที่เข้ามาค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของคุณได้ช่วยให้เห็นแบรนด์ของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งการทำ YouTube SEO นั่นก็คือการปรับแต่ง Title, Description, ปกวิดีโอ และองค์ประกอบอื่นๆ ของวิดีโอในช่องของคุณให้ตรงกับความสนใจของคนดูที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของคุณให้ได้มากที่สุด เพื่อที่ลูกค้าสามารถค้นหาและพบเจอกับวิดีโอของคุณได้ง่ายมากยิ่งขึ้น 

จะเห็นได้ว่าการทำ SEO บน YouTube นั้นมีความคล้ายคลึงกับการทำ SEO บนเว็บไซต์ นั่นก็คือการเลือกใช้คำหรือ Keywords ต่างๆ ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการทำ SEO บน YouTube นั้นยุ่งยากกว่าเล็กน้อย เนื่องจากคุณจะไม่สามารถปรับแต่งเนื้อหาในวิดีโอได้อีกถ้าหากคุณได้อัปโหลดวิดีโอลงแพลตฟอร์มแล้ว แต่คุณยังคงสามารถปรับแต่งองค์ประกอบอื่นๆ ได้อยู่ เช่น ปกวิดีโอ, Title และ Description ดังนั้น ก่อนทำวิดีโอสำหรับการทำ YouTube SEO จึงควรมีการวางแผน ถ่ายทำ และตัดต่อให้ตรงความต้องการและน่าสนใจตั้งแต่ต้น 

SEO สำหรับ Ecommerce (Ecommerce SEO)

อย่างที่เราได้เน้นย้ำมาโดยตลอดว่า SEO เป็นเครื่องมีทางการตลาดที่มีประโยชน์มากสำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัลอย่างในปัจจุบัน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยว่าธุรกิจ Ecommerce จำเป็นจะต้องทำ SEO เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางที่จะช่วยเข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น การทำ SEO จะช่วยเพิ่ม Organic traffic ให้กับเว็บไซต์ของคุณ ซึ่ง Organic Traffic ก็คือ traffic หรือจำนวนของคนที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณผ่านการค้นหาบน Search Engine อย่าง Google โดยไม่ต้องพึ่งการทำโฆษณา ทำให้ช่วยประหยัดงบค่าโฆษณาได้อีกด้วย

นอกจากนี้ Organic traffic สามารถนำไปสู่โอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้น อีกทั้งยังได้ลูกค้าหรือ user ใหม่ๆ อยู่เสมอ อีกทั้งยังเป็น user ที่มีคุณภาพและอาจเป็นลูกค้าของคุณในอนาคต เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้คือคนที่เข้ามาในเว็บไซต์ของคุณผ่านคีย์เวิร์ดที่เขากำลังให้ความสนใจ

มากไปกว่านั้น การทำ SEO สำหรับ Ecommerce ยังถือเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้อีกด้วย เพราะการมีหน้าเว็บไซต์ที่สวยดูดี และเสิร์ชติดอันดับ จะทำให้ลูกค้ามองว่าธุรกิจของคุณน่าเชื่อถือ นำไปสู่การขายสินค้าได้มากขึ้นเช่นกัน 

บริษัทรับทำ SEO สำหรับธุรกิจ B2B

แน่นอนว่าในการจะทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ การันตีผลลัพธ์ว่าเว็บไซต์จะติดอันดับโดยเฉพาะสำหรับธุรกิจแบบ B2B จะต้องใช้บริการบริษัทรับทำ SEO มากประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ และมีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจนั้นๆ เป็นอย่างดี เพราะธุรกิจแต่ละประเภทก็จะมีคีย์เวิร์ดที่ใช้ในการค้นหาที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นรูปแบบของ B2B ก็อาจมีคีย์เวิร์ดเฉพาะที่ใช้กันในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกันเท่านั้น จึงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่มีความเข้าใจในธุรกิจเป็นอย่างดีนั่นเอง

SEO สำหรับ Website (Website SEO)

เว็บไซต์เป็นเหมือนหน้าตาของบริษัท ที่จะมีผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าเมื่อลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชม ดังนั้น การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ดูสวยงาม มีฟังก์ชันการใช้งานและ UX/UI ที่ดี รวมถึงมีการทำ SEO ให้เว็บติดอันดับบน Google ก็จะยิ่งเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าได้ อย่างไรก็ตามหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการทำ SEO บนเว็บไซต์ให้ประสบผลสำเร็จได้ นั่นก็คือการเขียนบทความและลง blog ที่มีประสิทธิภาพและมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของลูกค้า โดยในบทความจะต้องมีการใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องและเหมาะสมนั่นเอง ไปดูกันว่าคุณสมบัติของคีย์เวิร์ดที่ดีนั้นมีอะไรบ้าง

  • Keyword จะต้องเกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น ประเภทของสินค้าหรือบริการ ปัญหาที่ลูกค้ามักเจอก่อนซื้อสินค้าของคุณ รวมถึงบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณขายรองเท้า หากใช้คีย์เวิร์ดว่า รองเท้า อาจจะกว้างเกินไป คุณอาจใช้คีย์เวิร์ดที่เจาะจงลงมา เช่น รองเท้าหุ้มส้นพร้อมส่ง หรือรองเท้าวิ่งผู้หญิง เป็นต้น
  • Keyword จะต้องมีคนใช้ค้นหา ซึ่งบางครั้งอาจไม่ได้อยู่ในรูปประโยคที่ถูกต้องนัก แต่มักเป็นคำหรือประโยคที่คนส่วนใหญ่ใช้ค้นหาจริงๆ ซึ่งในปัจจุบันก็มีบริการมากมายที่จะช่วยคุณดู volume ของการค้นหาคีย์เวิร์ดนั้นๆ หลายบริการอยู่ด้วยเช่นกัน เช่น Google Ads, Semrush, หรือจะเป็นเครื่องมือฟรีจาก Google อย่าง Google Trend เป็นต้น
  • Keyword ที่ใช้เป็น Keyword ประเภท High Commercial Intent หรือคีย์เวิร์ดที่เจาะจงลงไปอีกขั้น โดยที่ลูกค้ามักจะใส่ความต้องการของตัวเองลงไปเลย เช่น รองเท้าผ้าใบผู้หญิง แบรนด์ ราคาถูก

หลังจากที่มีการทำคอนเทนต์คุณภาพสูงพร้อมใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องมาปรับปรุงโครงสร้างของเว็บไซต์ให้เป็นมิตร และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีการทำ Off page SEO ที่เป็นการฝากลิงก์ของเราไว้ที่เว็บอื่นๆ หรือแพลตฟอร์มในการสื่อสารอื่นๆ ของแบรนด์เพื่อให้ลูกค้ากดเข้ามาเว็บไซต์ให้มากขึ้น 

SEO สำหรับยูทูป (YouTube SEO)

YouTube คือบริการที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับ Video Sharing ที่มีผู้เข้าชมในประเทศไทยเฉลี่ย 1.7 ล้านคนต่อเดือน และยังเป็นเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจาก Search Engine เจ้าดังอย่าง Google อีกด้วย YouTube จึงเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มสำหรับการสื่อสารกับลูกค้าที่ได้ผลดี การทำ YouTube SEO จึงเป็นอีกทางที่จะช่วยให้เห็นแบรนด์สินค้าของคุณได้อีกหนึ่งช่องทาง ซึ่งการทำ YouTube SEO นั่นก็คือการปรับแต่ง Title, Description, ปกวิดีโอ และองค์ประกอบอื่นๆ ของวิดีโอในช่องให้ตรงกับความสนใจของคนดูที่เป็นกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด เพื่อที่ลูกค้าสามารถค้นหาและพบเจอกับวิดีโอของคุณได้ง่ายมากยิ่งขึ้น 

Vault Mark Digital Marketing & SEO Agency ในไทย การันตีผลลัพธ์

จากข้อมูลข้างต้น คุณจะเห็นได้ว่าการทำ SEO นั้นแม้จะดูทำได้ง่ายและสามารถทำได้เอง แต่ที่จริงแล้วมีขั้นตอนและเทคนิคที่ควรจะต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญหรือ SEO Company ให้เข้ามาช่วยดูแล เพื่อผลลัพธ์ที่มั่นใจได้ว่าธุรกิจของคุณจะติดอันดับต้นๆ บนหน้าแสดงผลการค้นหา Vault Mark Digital Marketing & SEO Agency เป็นเอเจนซี่ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์และการทำ SEO ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเงิน เทคโนโลยี ร้านอาหาร และอื่นๆ อีกมากมาย ทำ SEO กับเรา การันตีว่าได้ผลลัพธ์ดีแน่นอน หากคุณกำลังมองหาบริษัทรับทำ SEO ที่ไว้ใจได้ ติดต่อเราได้ทันที

Facebook
Twitter
LinkedIn

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ต้องการความช่วยเหลือ

โทรหาเราวันนี้และดูว่าเราสามารถทำอะไรเพื่อธุรกิจของคุณได้บ้าง!

หรือ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้นคุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้เหล่านี้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อประโยชน์ในการวัด ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากคุณไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้เหล่านี้ เราจะไม่สามารถวัด ปรับปรุง และพัฒนาเว็บไซต์นี้ได้

บันทึกการตั้งค่า