แคมเปญปัง งบไม่พัง ยิงตรงเป้าทุกบาท

เราคือทีมผู้เชี่ยวชาญด้านโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Instagram, TikTok หรือ Facebook พร้อมออกแบบแคมเปญที่ทรงพลังทั้งในด้าน ภาพ คำ และกลยุทธ์ เราทำงานด้วยการ กำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบแม่นยำ, สร้างครีเอทีฟที่ดึงสายตา และวิเคราะห์ผลแบบเรียลไทม์เพื่อปรับให้คุ้มทุกบาทของงบคุณ เข้าถึงลูกค้าได้เร็วกว่า และเปลี่ยนยอดวิวเป็นยอดขายได้จริง

Facebook Ads: เพิ่มการมองเห็นและการมีส่วนร่วมให้แบรนด์ของคุณ

ใช้ความเชี่ยวชาญของเราในการสร้างโฆษณา Facebook ที่ดึงดูดความสนใจและเพิ่มการมีส่วนร่วมที่มีคุณค่า ขยายแบรนด์ของคุณให้โดดเด่นในทุกโพสต์!

Facebook Ads มอบแพลตฟอร์มที่ทรงพลังและยืดหยุ่นสำหรับธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงและสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำ ผ่านเครือข่ายสังคมที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก เครื่องมือนี้ช่วยให้คุณสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเฉพาะเจาะจงตามเกณฑ์ต่าง ๆ เช่น ข้อมูลประชากร ความสนใจ พฤติกรรม และอื่น ๆ ทำให้การโฆษณาของคุณมุ่งตรงสู่ผู้ที่มีแนวโน้มสนใจในสินค้าหรือบริการของคุณมากที่สุด

 

อ่านเพิ่มเติม

วิธีการเฉพาะของเราในการจัดการ Facebook Ads มุ่งเน้นไปที่การสร้างโฆษณาที่ดึงดูดใจและกระตุ้นให้เกิดการกระทำ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มทราฟฟิกไปยังเว็บไซต์ การกระตุ้นยอดขาย หรือการสร้างการรับรู้แบรนด์ แคมเปญของเราถูกออกแบบมาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริง เราเริ่มจากการทำความเข้าใจเป้าหมายทางธุรกิจของคุณ และพัฒนากลยุทธ์โฆษณาที่ปรับให้ตรงกับเป้าหมายเหล่านั้น อาจเป็นการใช้รูปแบบโฆษณาหลายแบบ เช่น วิดีโอ โฆษณาแบบ Carousel หรือ Dynamic Product Ads เพื่อถ่ายทอดข้อความของคุณไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ เรายังเน้นไปที่การออกแบบเชิงสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพที่ดึงดูดใจ วิดีโอที่น่าสนใจ หรือข้อความโฆษณาที่ทรงพลัง ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทสำคัญในการทำให้โฆษณาของคุณโดดเด่นในฟีดที่เต็มไปด้วยคอนเทนต์ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) สูงสุด เราทดสอบและปรับแต่งทุกองค์ประกอบของแคมเปญ ตั้งแต่การตั้งค่ากลุ่มเป้าหมาย การวางตำแหน่งโฆษณา ไปจนถึงองค์ประกอบเชิงสร้างสรรค์และ Call-to-Action

ด้วยความเชี่ยวชาญในการจัดการ Facebook Ads เราช่วยให้คุณไม่เพียงแต่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาทำการกระทำที่มีความหมาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของงบโฆษณาและส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจอย่างชัดเจน

ยิงตรงกลุ่มเป้าหมายแบบแม่นยำทุกคลิก

อ่านเพิ่มเติม

Facebook Ads โดดเด่นด้วยความสามารถในการเจาะกลุ่มเป้าหมายแบบละเอียดสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็น อายุ, พื้นที่, ความสนใจ, พฤติกรรมการใช้งาน หรือแม้กระทั่งกิจกรรมล่าสุดของผู้ใช้ ระดับความละเอียดของการกำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบนี้ ทำให้ทุกโฆษณาที่คุณปล่อยออกไป เข้าถึงผู้ที่มีแนวโน้มจะสนใจสินค้า/บริการของคุณจริง ๆ ลดการสูญเปล่า และเพิ่มโอกาสในการแปลงผู้ชมเป็นลูกค้า ยิ่งยิงแม่น ยิ่งคุ้มค่า ยิ่งได้ผลตอบแทนกลับมาแบบเห็นภาพ

เพิ่มการรับรู้แบรนด์ให้โดดเด่นในทุกฟีด

อ่านเพิ่มเติม

Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานนับล้านคนต่อวัน และด้วยระบบโฆษณาที่ทรงพลัง คุณสามารถแสดงแบรนด์ของคุณต่อกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยรู้จักคุณมาก่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงแค่ปรากฏอยู่ในฟีดอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ คุณจะสร้างการจดจำแบรนด์ (Brand Recall) ได้ในใจของผู้บริโภค และเสริมสถานะออนไลน์ให้แบรนด์ของคุณดู “น่าเชื่อถือและน่าจดจำยิ่งขึ้น” เปลี่ยนผู้ชมทั่วไปให้คุ้นชื่อแบรนด์ และพร้อมก้าวสู่การเป็นลูกค้าในอนาคต

สร้างยอดไลก์ แชร์ คอมเมนต์ แบบถล่มทลาย

อ่านเพิ่มเติม

โฆษณาบน Facebook ถูกออกแบบมาเพื่อให้ “คนอยากมีส่วนร่วม” ไม่ว่าจะเป็นการไลก์ คอมเมนต์ แชร์ ดูวิดีโอ หรือปัดดูรูปแบบ Carousel ทุกฟอร์แมตล้วนกระตุ้นให้ผู้ชม อินกับแบรนด์ มากขึ้น การมีปฏิสัมพันธ์ที่สูงไม่เพียงแต่ช่วยให้แบรนด์ดูน่าสนใจในสายตาผู้ชม แต่ยังช่วยสร้าง “ความผูกพัน” ที่นำไปสู่ความภักดีต่อแบรนด์ และการกลับมาซื้อซ้ำในระยะยาว ยิ่งคนมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์มากเท่าไร โอกาสที่แบรนด์จะกลายเป็นที่จดจำก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น

ยิงแอดแบบคุ้มทุกบาท

อ่านเพิ่มเติม

Facebook Ads ให้คุณควบคุมงบประมาณได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือเริ่มต้นเล็ก ๆ ก็สามารถจัดสรรงบได้ตามเป้า ด้วยระบบ จ่ายตามคลิก (PPC) หรือ จ่ายตามจำนวนการแสดงผล (CPM) ที่สำคัญ ด้วยความสามารถในการตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายแบบแม่นยำ ทุกบาทที่คุณจ่ายไปจะถูกใช้เพื่อเข้าถึงผู้ที่ “มีแนวโน้มจะสนใจจริง” ไม่ใช่แค่ยิงกว้างแบบกระจายเปล่า งบน้อยก็เริ่มได้ งบมากยิ่งขยายผลได้ชัดเจน ทุกแคมเปญออกแบบให้คุ้มค่าสูงสุด

วัดผลได้ลึก วิเคราะห์ได้จริง ปรับแคมเปญให้แม่นยำ

อ่านเพิ่มเติม

Facebook มีเครื่องมือวิเคราะห์ที่ครบครันและละเอียด ช่วยให้คุณติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญได้แบบเรียลไทม์ ตั้งแต่เมตริกพื้นฐานอย่าง Reach, Impressions, CTR (Click-Through Rate) ไปจนถึง Conversion, ค่าคอนเวอร์ชันต่อคลิก และยอดขายจริง ข้อมูลเหล่านี้ไม่เพียงแค่บอกว่าคุณยิงโฆษณาไปถึงใคร แต่ยังช่วยให้คุณรู้ว่า อะไรได้ผล และอะไรต้องปรับ เพื่อให้ทุกแคมเปญมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งวิเคราะห์แม่น กลยุทธ์ยิ่งเฉียบ ผลลัพธ์ยิ่งชัดเจน

ยิง Ads ได้หลากหลายแบบ

อ่านเพิ่มเติม

Facebook จัดเต็มเรื่องฟอร์แมตโฆษณาให้เลือกแบบจุก ๆ ตอบทุกเป้าหมายการตลาดที่คุณอยากปั้น ไม่ว่าจะอยากเล่าเรื่องด้วยวิดีโอ, โชว์สินค้าหลายชิ้นแบบสไลด์ด้วย Carousel, หรือยิงโฆษณาแบบ Dynamic ให้แต่ละคนเห็นสินค้าที่ใช่สำหรับเขาโดยเฉพาะ Facebook ก็มีให้ครบ ความหลากหลายนี้แหละที่เปิดโอกาสให้แบรนด์ได้ลองเทสว่าฟอร์แมตไหนโดนใจกลุ่มเป้าหมายสุด ๆ ช่วยให้คอนเทนต์ของคุณไม่แค่ผ่านตา แต่โดนใจคนดูแบบเต็ม ๆ

โปรเจกต์

สำรวจผลงาน
โปรเจกต์โดดเด่นของเรา

คุณสมบัติเด่นของบริการ

สัมผัสประสบการณ์บริการที่ยอดเยี่ยม
อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ยิงโฆษณาแบบ “Made for You”

อ่านเพิ่มเติม

เราทำมากกว่าการสร้างโฆษณา... เราออกแบบ Facebook Ads แบบ Custom ที่พูดได้เต็มปากว่า “นี่แหละคือเสียงของแบรนด์คุณ” ทุกชิ้นงานถูกดีไซน์ให้เข้ากับสไตล์ของแบรนด์ เป้าหมายทางการตลาด และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเป้าหมายแบบเป๊ะ ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพสวยดึงดูด, วิดีโอเล่าเรื่องได้ หรือข้อความขายที่โดนใจ ทุกอย่างถูกสร้างมาให้คนดูรู้สึกอินและอยากมีส่วนร่วม เราวิเคราะห์ลึกทั้งภาพลักษณ์แบรนด์ อินไซต์ลูกค้า ไปจนถึงจุดที่ควรโฟกัส เพื่อให้โฆษณาแต่ละชิ้นไม่แค่ดูดี แต่ สื่อสารได้ตรงจุด และ สร้างผลลัพธ์ที่ชัดเจน

ยิงตรงเป้า ด้วยกลยุทธ์ Targeting & Retargeting

อ่านเพิ่มเติม

We employ sophisticated targeting and retargeting techniques to enhance the efficiency and effectiveness of your Facebook ad campaigns. By analyzing user behavior, demographics, and other key data points, we precisely target new customers who are most likely to be interested in your offerings. Simultaneously, our retargeting strategies focus on re-engaging individuals who have previously interacted with your brand, whether they visited your website, used your app, or engaged with your Facebook content. These targeted approaches ensure that your ads reach the right people at the right time, maximizing conversion opportunities and optimizing your ad spend.

วัดผลแบบเรียลไทม์ ปรับให้ไว ยิงโฆษณาให้แรงต่อเนื่อง

อ่านเพิ่มเติม

เรามอนิเตอร์ประสิทธิภาพของ Facebook Ads แบบเรียลไทม์ พร้อมปรับแต่งให้ตรงจุดอยู่เสมอ ดูทุกเมตริกที่สำคัญแบบไม่พลาด ตั้งแต่ CTR, Engagement, Conversion จนถึง ROI เราวิเคราะห์ละเอียดเพื่อนำไปสู่การปรับแผนแบบแม่นยำ โฆษณาไม่หยุดนิ่ง แคมเปญไม่หลุดโฟกัส ทุกการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมลูกค้า เราอัปเดตแผนให้ทันเกม เพื่อให้แคมเปญของคุณยิงได้แรงต่อเนื่องและได้ผลลัพธ์สูงสุด

FAQ

คำถามที่พบบ่อย:
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

Facebook Ads เป็นเครื่องมือการตลาดดิจิทัลที่ทรงพลังมากของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Facebook ที่ช่วยให้ธุรกิจ องค์กร หรือบุคคลทั่วไปสามารถสร้างโฆษณาและกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ โดยอิงจากหลายปัจจัย โฆษณาเหล่านี้สามารถปรากฏในหลายตำแหน่งบนแพลตฟอร์ม Facebook เช่น ในฟีดข่าว คอลัมน์ด้านขวาของเดสก์ท็อป และใน Stories ของ Facebook และ Instagram นอกจากนี้ยังขยายไปถึง Audience Network ซึ่งครอบคลุมพื้นที่นอกเหนือจาก Facebook เอง

 

จุดแข็งของ Facebook Ads อยู่ที่ความสามารถในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ละเอียดมาก ผู้ลงโฆษณาสามารถระบุกลุ่มเป้าหมายได้จากปัจจัยประชากรศาสตร์ เช่น อายุ เพศ ตำแหน่งที่อยู่ และภาษาที่พูด นอกจากนี้ Facebook ยังมีตัวเลือกการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ลึกกว่า เช่น ความสนใจ (เช่น งานอดิเรก ความบันเทิงที่ชอบ) พฤติกรรม (เช่น พฤติกรรมการซื้อ) และการเชื่อมต่อ (เช่น คนที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเพจหรืออีเว้นท์ของธุรกิจคุณ) การกำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียดนี้ทำให้โฆษณาเข้าถึงคนที่มีแนวโน้มจะสนใจสินค้าหรือบริการของคุณได้มากที่สุด ทำให้โฆษณามีความเกี่ยวข้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

Facebook Ads ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาดที่หลากหลาย ตั้งแต่การสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ การเพิ่มทราฟฟิกเว็บไซต์ ไปจนถึงการสร้างลีดและเพิ่มยอดขาย ซึ่งแพลตฟอร์มนี้มีรูปแบบโฆษณาที่หลากหลายเพื่อรองรับเป้าหมายที่แตกต่างกัน เช่น โฆษณารูปภาพ โฆษณาวิดีโอ โฆษณา Carousel (ที่แสดงรูปภาพหรือวิดีโอหลายรายการในโฆษณาเดียว) และฟอร์แมตอินเตอร์แอคทีฟอย่าง Instant Experiences ผู้ลงโฆษณาสามารถตั้งงบประมาณสำหรับแคมเปญได้เองและเลือกว่าจะจัดสรรงบนี้อย่างไรในช่วงเวลาที่กำหนด ด้วยเครื่องมือวิเคราะห์และรายงานที่ครบครัน Facebook Ads ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถวัดผลประสิทธิภาพของโฆษณาแบบเรียลไทม์ พร้อมด้วยข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญ เช่น จำนวนการแสดงผล การเข้าถึง และอัตราการแปลง ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการประเมินความสำเร็จของแคมเปญและวางแผนกลยุทธ์ในอนาคต

การทำให้โฆษณา Facebook ของคุณมีประสิทธิภาพต้องใช้กลยุทธ์ที่รวมความคิดสร้างสรรค์ ความแม่นยำในการกำหนดเป้าหมาย และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง นี่คือวิธีที่คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา Facebook ของคุณได้:

 

  1. ภาพที่ดึงดูดใจ: เนื่องจาก Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นด้านภาพ การใช้ภาพหรือวิดีโอคุณภาพสูงและน่าสนใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ ภาพของคุณต้องโดดเด่นในฟีดของผู้ใช้และดึงดูดให้พวกเขามีส่วนร่วมกับเนื้อหาของคุณ

  2. ข้อความที่ชัดเจนและกระชับ: ข้อความในโฆษณาของคุณต้องสื่อสารคุณค่าของสิ่งที่คุณเสนอได้อย่างชัดเจน ควรใช้ข้อความที่กระชับแต่ทรงพลังพอที่จะจูงใจให้ผู้ใช้ทำตามเป้าหมาย อย่าลืมให้ข้อความของคุณสอดคล้องกับภาพและพูดถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายโดยตรง

  3. การเรียกร้องให้ดำเนินการ (CTA) ที่น่าสนใจ: ทุกโฆษณาควรมี CTA ที่ชัดเจน บอกผู้ใช้ให้ทราบถึงสิ่งที่คุณต้องการให้พวกเขาทำ เช่น “ซื้อเลย”, “เรียนรู้เพิ่มเติม” หรือ “สมัครสมาชิก” ซึ่งปุ่ม CTA บน Facebook สามารถช่วยเพิ่มอัตราการแปลงได้อย่างมาก

  4. การกำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ: ใช้ตัวเลือกการกำหนดกลุ่มเป้าหมายของ Facebook อย่างละเอียด เพื่อระบุกลุ่มเป้าหมายของคุณได้อย่างถูกต้อง ลองใช้กลยุทธ์การแบ่งกลุ่มที่แตกต่าง เช่น การกำหนดเป้าหมายตามพฤติกรรม ความสนใจ ข้อมูลประชากร หรือแม้กระทั่งสร้างกลุ่มเป้าหมายที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจของคุณ

  5. การทดสอบและปรับปรุงเป็นประจำ: ทำการทดสอบ A/B Testing เพื่อดูว่ารูปแบบโฆษณาใดทำงานได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ ข้อความ หรือกลุ่มเป้าหมาย จากนั้นใช้ข้อมูลจาก Facebook Analytics เพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์และปรับปรุงแคมเปญของคุณตามนั้น

  6. การจัดการงบประมาณ: ปรับงบประมาณโฆษณาของคุณตามผลลัพธ์ของแคมเปญ เพิ่มการลงทุนในโฆษณาที่ทำงานได้ดี และลดการใช้จ่ายหรือหยุดโฆษณาที่ไม่ได้ผล

หากปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้ คุณจะสามารถสร้างโฆษณา Facebook ที่ไม่เพียงแค่เข้าถึง แต่ยังเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ชัดเจน

Facebook มีรูปแบบโฆษณาหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการทางการตลาดและฟอร์แมตที่สร้างสรรค์ต่าง ๆ นี่คือประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด:

 

  1. โฆษณาภาพนิ่ง (Image Ads): เป็นโฆษณาแบบง่าย ๆ ที่ใช้ภาพเพียงภาพเดียวในการโปรโมตสินค้า หรือบริการ สร้างได้ไม่ยากและมีประสิทธิภาพมากเมื่อใช้ภาพและข้อความที่ตรงจุด

  2. โฆษณาวิดีโอ (Video Ads): ใช้คอนเทนต์วิดีโอเพื่อดึงดูดความสนใจได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากในการเล่าเรื่องหรือแสดงฟีเจอร์ของสินค้า

  3. โฆษณาแบบ Carousel: โฆษณานี้ช่วยให้คุณแสดงรูปภาพหรือวิดีโอได้ถึง 10 ชิ้นภายในโฆษณาเดียว แต่ละชิ้นสามารถมีลิงก์เป็นของตัวเอง เหมาะสำหรับการโปรโมตฟีเจอร์ที่หลากหลายของสินค้า แสดงสินค้าหลายตัว หรือเล่าเรื่องราวต่อเนื่องในแต่ละภาพ

  4. โฆษณาแบบสไลด์โชว์ (Slideshow Ads): เป็นการสร้างประสบการณ์แบบวิดีโอโดยใช้ภาพนิ่ง พร้อมเสียงและข้อความ โฆษณานี้กินแบนด์วิดธ์น้อยกว่าโฆษณาวิดีโอ เหมาะสำหรับการเข้าถึงผู้ชมที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ช้ากว่า

  5. โฆษณา Dynamic Product Ads: โฆษณานี้จะโปรโมตสินค้าที่ผู้ใช้เคยแสดงความสนใจโดยอัตโนมัติ เช่น ผ่านเว็บไซต์หรือแอปของคุณ เหมาะสำหรับการรีทาร์เก็ตกลุ่มเป้าหมาย โดยต้องมีการตั้งค่าคาตาล็อกสินค้าบน Facebook ก่อน

  6. โฆษณา Instant Experience (เดิมคือ Canvas): เป็นโฆษณาเต็มหน้าจอที่ออกแบบมาสำหรับมือถือ โหลดได้เร็วกว่าเว็บปกติ รวมภาพ วิดีโอ คารูเซล และปุ่ม CTA ได้ในหนึ่งเดียว

แต่ละประเภทโฆษณามีจุดประสงค์แตกต่างกัน และสามารถใช้เพื่อให้ตรงกับเป้าหมายทางการตลาดของคุณ เลือกใช้ประเภทโฆษณาที่เหมาะสมตามเป้าหมายของแคมเปญและการมีส่วนร่วมที่คุณต้องการ

การติดตามผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของโฆษณา Facebook เป็นสิ่งสำคัญในการประเมินประสิทธิภาพการใช้จ่ายโฆษณาและช่วยให้คุณตัดสินใจเกี่ยวกับแคมเปญในอนาคตได้อย่างมีข้อมูล นี่คือวิธีที่คุณสามารถติดตาม ROI ของโฆษณา Facebook ของคุณ:

 

  1. ตั้งค่าการติดตาม Conversion: ก่อนที่จะวัด ROI ได้ คุณต้องตั้งค่าการติดตาม Conversion ผ่าน Facebook Pixel หรือ Facebook Conversions API เพื่อดูพฤติกรรมของผู้ใช้หลังจากเห็นโฆษณา เช่น การซื้อ การสมัครรับข่าวสาร หรือการกรอกแบบฟอร์มติดต่อ

  2. ใช้ Facebook Ads Manager: เครื่องมือนี้ให้คุณวิเคราะห์แคมเปญโฆษณาได้อย่างละเอียด คุณสามารถดูรายงานเกี่ยวกับการเข้าถึง (reach) คลิก (clicks) การแปลง (conversions) และยอดขายที่เกิดขึ้นจากโฆษณาของคุณ Ads Manager ยังแสดงยอดใช้จ่ายของแต่ละโฆษณา ช่วยคำนวณค่าใช้จ่ายต่อผลลัพธ์ (cost per result)

  3. วิเคราะห์ข้อมูลการทำงาน: ให้เน้นที่เมตริกสำคัญ เช่น อัตราการคลิกผ่าน (CTR), ต้นทุนต่อคลิก (CPC), ต้นทุนต่อการกระทำ (CPA) และอัตราการแปลงทั้งหมด (conversion rate) การเปรียบเทียบเมตริกเหล่านี้กับงบประมาณที่ใช้จะให้ข้อมูลเชิงลึกว่าการใช้จ่ายนั้นมีประสิทธิภาพเพียงใด

  4. คำนวณ ROI: เพื่อคำนวณ ROI ของโฆษณา Facebook ให้นำรายได้ที่เกิดจากแคมเปญลบด้วยค่าใช้จ่ายของแคมเปญ จากนั้นนำผลลัพธ์ที่ได้หารด้วยค่าใช้จ่ายแคมเปญ แล้วคูณด้วย 100 เพื่อให้ได้เป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าคุณได้กำไรเท่าไหร่จากการใช้จ่ายในแต่ละดอลลาร์

  5. ทบทวนและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ: ตรวจสอบประสิทธิภาพของโฆษณาอย่างต่อเนื่องและปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การทดสอบองค์ประกอบโฆษณาและการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันจะช่วยให้คุณปรับปรุงแคมเปญและเพิ่ม ROI ได้ในระยะยาว

  6. ใช้เครื่องมือจาก Third-Party: พิจารณาใช้เครื่องมือวิเคราะห์จากภายนอกที่สามารถรวมเข้ากับ Facebook เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพแคมเปญและพฤติกรรมลูกค้าผ่านหลายช่องทาง

การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบจะช่วยให้คุณเข้าใจ ROI ของโฆษณา Facebook ได้อย่างชัดเจน และปรับกลยุทธ์การโฆษณาให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

ได้ หนึ่งในฟีเจอร์ที่ทรงพลังของ Facebook Ads คือความสามารถในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายไปยังผู้ใช้ที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณมาก่อน ซึ่งเรียกว่าการรีทาร์เก็ต (Retargeting) หรือรีมาร์เก็ตติ้ง (Remarketing) วิธีการนี้ใช้ Facebook Pixel ซึ่งเป็นโค้ดเล็ก ๆ ที่คุณติดตั้งบนเว็บไซต์เพื่อเก็บข้อมูลการเข้าชมและพฤติกรรมของผู้ใช้ เมื่อผู้ใช้กลับมาเยี่ยมชม Facebook คุณสามารถแสดงโฆษณาที่ตรงเป้าหมายต่อพวกเขาได้

 

การรีทาร์เก็ตด้วย Facebook Ads มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากโฟกัสไปที่กลุ่มผู้ใช้ที่เคยแสดงความสนใจในสินค้าหรือบริการของคุณแล้ว ทำให้มีโอกาสที่พวกเขาจะเปลี่ยนมาเป็นลูกค้ามากขึ้น คุณสามารถปรับแคมเปญรีทาร์เก็ตให้เหมาะสมกับการกระทำเฉพาะที่ผู้ใช้ทำบนเว็บไซต์ เช่น การเยี่ยมชมหน้าสินค้า การเพิ่มสินค้าลงในตะกร้า หรือการละทิ้งการซื้อ เพื่อกระตุ้นและเตือนให้พวกเขากลับมาทำธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์

 

นอกจากนี้ คุณยังสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายเฉพาะใน Facebook Ad Manager สำหรับผู้เยี่ยมชมประเภทต่าง ๆ เช่น ผู้ใช้ที่เข้าเว็บไซต์ในช่วง 30 วันที่ผ่านมาแต่ไม่ได้ทำการซื้อ หรือผู้ใช้ที่ใช้เวลาในการดูหน้าต่าง ๆ ของเว็บไซต์เป็นเวลานาน การทำแบบนี้ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งโฆษณาให้เหมาะกับความต้องการและความสนใจของแต่ละกลุ่มได้อย่างแม่นยำ

 

การรีทาร์เก็ตยังช่วยเพิ่มการรักษาลูกค้า (Customer Retention) โดยทำให้แบรนด์ของคุณอยู่ในใจของผู้ที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ล่าสุด เมื่อใช้กลยุทธ์รีทาร์เก็ตของ Facebook อย่างถูกต้อง คุณจะสามารถนำลูกค้ากลับมายังเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มอัตราการแปลง (Conversion Rate) และเพิ่ม ROI จากการโฆษณาของคุณ.

บทความที่เกี่ยวข้อง

เจาะลึกเทรนด์อุตสาหกรรม
ผ่านมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ