• Facebook Ads Management Targeted Ad Strategies  
  • Facebook Ads Management Targeted Ad Strategies  
  • Facebook Ads Management Targeted Ad Strategies  
  • Facebook Ads Management Targeted Ad Strategies  
  • Facebook Ads Management Targeted Ad Strategies  
  • Facebook Ads Management Targeted Ad Strategies  
  • Facebook Ads Management Targeted Ad Strategies  
  • Facebook Ads Management Targeted Ad Strategies  

Facebook Ads: เพิ่มการมองเห็นและการมีส่วนร่วมให้แบรนด์ของคุณ

ใช้ความเชี่ยวชาญของเราในการสร้างโฆษณา Facebook ที่ดึงดูดความสนใจและเพิ่มการมีส่วนร่วมที่มีคุณค่า ขยายแบรนด์ของคุณให้โดดเด่นในทุกโพสต์!

Facebook Ads มอบแพลตฟอร์มที่ทรงพลังและยืดหยุ่นสำหรับธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงและสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำ ผ่านเครือข่ายสังคมที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก เครื่องมือนี้ช่วยให้คุณสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเฉพาะเจาะจงตามเกณฑ์ต่าง ๆ เช่น ข้อมูลประชากร ความสนใจ พฤติกรรม และอื่น ๆ ทำให้การโฆษณาของคุณมุ่งตรงสู่ผู้ที่มีแนวโน้มสนใจในสินค้าหรือบริการของคุณมากที่สุด

วิธีการเฉพาะของเราในการจัดการ Facebook Ads มุ่งเน้นไปที่การสร้างโฆษณาที่ดึงดูดใจและกระตุ้นให้เกิดการกระทำ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มทราฟฟิกไปยังเว็บไซต์ การกระตุ้นยอดขาย หรือการสร้างการรับรู้แบรนด์ แคมเปญของเราถูกออกแบบมาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริง เราเริ่มจากการทำความเข้าใจเป้าหมายทางธุรกิจของคุณ และพัฒนากลยุทธ์โฆษณาที่ปรับให้ตรงกับเป้าหมายเหล่านั้น อาจเป็นการใช้รูปแบบโฆษณาหลายแบบ เช่น วิดีโอ โฆษณาแบบ Carousel หรือ Dynamic Product Ads เพื่อถ่ายทอดข้อความของคุณไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ เรายังเน้นไปที่การออกแบบเชิงสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพที่ดึงดูดใจ วิดีโอที่น่าสนใจ หรือข้อความโฆษณาที่ทรงพลัง ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทสำคัญในการทำให้โฆษณาของคุณโดดเด่นในฟีดที่เต็มไปด้วยคอนเทนต์ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) สูงสุด เราทดสอบและปรับแต่งทุกองค์ประกอบของแคมเปญ ตั้งแต่การตั้งค่ากลุ่มเป้าหมาย การวางตำแหน่งโฆษณา ไปจนถึงองค์ประกอบเชิงสร้างสรรค์และ Call-to-Action

ด้วยความเชี่ยวชาญในการจัดการ Facebook Ads เราช่วยให้คุณไม่เพียงแต่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาทำการกระทำที่มีความหมาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของงบโฆษณาและส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจอย่างชัดเจน

Precise Targeting

Read more

Facebook Ads excel in allowing advertisers to target their audience with exceptional precision. With access to vast amounts of user data, Facebook enables targeting based on age, location, interests, behaviors, and much more. This granularity ensures that your ads are shown to the people most likely to be interested in your products or services, making each ad more effective and increasing the overall efficiency of your advertising budget.

Increased Brand Awareness

Read more

Using Facebook Ads is a powerful way to increase your brand's visibility. With millions of active users daily, Facebook provides a platform where ads can reach a large audience, including those who may not have discovered your brand otherwise. By consistently presenting your brand in users’ feeds, you can enhance brand recall and establish a stronger online presence.

High Engagement

Read more

Facebook’s format encourages interaction—from likes and comments to shares and views. Ads on Facebook are designed to be engaging, often featuring interactive elements like videos, carousel images, or instant experiences. This high engagement can lead to better brand engagement metrics and deeper connections with customers, ultimately driving loyalty and repeat business.

Cost-Effective

Read more

Facebook Ads offer a flexible cost structure, which can be tailored to any budget, large or small. The platform uses a pay-per-click or pay-per-impression model, allowing you to control how much you spend on each campaign. Additionally, because of the precise targeting options, your money is spent more efficiently compared to less targeted advertising channels.

Rich Analytics

Read more

Facebook provides comprehensive analytics tools that give detailed insights into your ads’ performance. You can track everything from basic metrics like reach and impressions to more detailed insights such as click-through rates, conversion rates, and even sales data. This wealth of information allows for continuous improvement and optimization of your campaigns, ensuring that you achieve the best possible results.

Versatility in Ad Formats

Read more

Facebook offers a variety of ad formats to fit different marketing needs and goals. Whether it’s video ads for storytelling, carousel ads for showcasing multiple products, or dynamic ads for personalized product recommendations, Facebook has an ad format to meet every need. This versatility enables businesses to experiment and find what works best for engaging their specific audience, ensuring that the content is not only seen but also resonates with viewers.

โปรเจกต์

สำรวจผลงาน
โปรเจกต์โดดเด่นของเรา

คุณสมบัติเด่นของบริการ

สัมผัสประสบการณ์บริการที่ยอดเยี่ยม
อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

Custom Ad Creation

Read more

Our service involves designing and developing customized Facebook ads that authentically reflect your brand’s unique voice and resonate with your target audience. We focus on creating visually appealing and content-rich ads tailored to engage and captivate potential customers. This process includes a thorough analysis of your brand’s style, goals, and customer demographics to ensure that each ad not only looks great but also communicates your message effectively. Whether it's through compelling imagery, engaging videos, or persuasive copywriting, our ads are crafted to leave a lasting impression on your audience and drive meaningful interactions.

Targeting and Retargeting Strategies

Read more

We employ sophisticated targeting and retargeting techniques to enhance the efficiency and effectiveness of your Facebook ad campaigns. By analyzing user behavior, demographics, and other key data points, we precisely target new customers who are most likely to be interested in your offerings. Simultaneously, our retargeting strategies focus on re-engaging individuals who have previously interacted with your brand, whether they visited your website, used your app, or engaged with your Facebook content. These targeted approaches ensure that your ads reach the right people at the right time, maximizing conversion opportunities and optimizing your ad spend.

Performance Monitoring

Read more

Continuous tracking and adjustment of your Facebook ad campaigns are crucial for achieving and maintaining high performance. We utilize real-time performance data to monitor the effectiveness of each campaign closely. This includes tracking metrics such as click-through rates, engagement rates, conversion rates, and overall ROI. Based on these insights, we make data-driven decisions to tweak and refine your ads and targeting strategies. This ongoing optimization process helps to ensure that your campaigns remain effective over time, adapting to changes in audience behavior and market dynamics to consistently deliver the best possible results.

Allianz
JLL
Cisco
Eucerin
Kudan and Partner
Manhattan Business Hotel
Misumi
PTTDigital
Schneider
Sunlee
Thai Plastwood

คำรับรองจากลูกค้า

ฟังเสียงจากลูกค้าของเรา

การใช้บริการโฆษณาบน Facebook ของ Vault Mark เปลี่ยนโฉมการมองเห็นออนไลน์และยอดขายของร้านเราไปอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ การสร้างโฆษณาที่ออกแบบมาเฉพาะร้านเราทำให้บ่งบอกตัวตนของบูติกได้อย่างลงตัว แถมกลยุทธ์การกำหนดกลุ่มเป้าหมายยังทำให้เราได้ลูกค้าที่รักในสิ่งที่เรานำเสนอจริง ๆ การติดตามผลลัพธ์อย่างต่อเนื่องช่วยให้แคมเปญพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ และเห็นได้ชัดว่า ROI ของเราเพิ่มขึ้นมาก ดิฉันรู้สึกพอใจสุด ๆ กับผลลัพธ์และบริการที่เป็นมืออาชีพจาก Vault Mark เลยค่ะ

วนิดา แซ่ตั้ง
เจ้าของร้านบูติก

เราใช้บริการโฆษณาบน Facebook จาก Vault Mark แล้วผลลัพธ์ดีเกินคาดจริง ๆ ครับ การสร้างและจัดการโฆษณาของพวกเขาช่วยเพิ่มยอดสมัครสมาชิกของฟิตเนสเราได้อย่างมาก ความใส่ใจในรายละเอียดการติดตามผลของพวกเขาทำให้มั่นใจได้ว่า ทุกบาทที่ลงทุนไปเป็นการลงทุนเพื่อความสำเร็จของเราอย่างแท้จริง แนะนำสุด ๆ สำหรับใครที่อยากขยายธุรกิจอย่างจริงจังครับ

ศุภกร ไชยวงษ์
ผู้จัดการฟิตเนส

ดิฉันประทับใจมากกับวิธีที่ Vault Mark สร้างโฆษณาบน Facebook ให้กับร้านอาหารกูร์เมต์ของเรา พวกเขาทำให้เอกลักษณ์ของร้านเราชัดเจน ทั้งภาพโฆษณาที่สวยงาม และข้อความที่ตรงใจลูกค้า ด้วยกลยุทธ์การกำหนดกลุ่มเป้าหมายและการทำรีทาร์เก็ตติ้งที่แม่นยำ ยอดสั่งซื้อและลูกค้าที่กลับมาซื้อซ้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การอัปเดตผลลัพธ์โฆษณาอย่างสม่ำเสมอทำให้เรามองเห็นคุณค่าของแต่ละแคมเปญได้ง่าย ๆ Vault Mark เป็นพาร์ทเนอร์ที่สำคัญมากในกลยุทธ์การเติบโตของเราค่ะ

นฤมล รัชพงษ์
เจ้าของร้านอาหารกูร์เมต์

FAQ

คำถามที่พบบ่อย:
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

Facebook Ads เป็นเครื่องมือการตลาดดิจิทัลที่ทรงพลังมากของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Facebook ที่ช่วยให้ธุรกิจ องค์กร หรือบุคคลทั่วไปสามารถสร้างโฆษณาและกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ โดยอิงจากหลายปัจจัย โฆษณาเหล่านี้สามารถปรากฏในหลายตำแหน่งบนแพลตฟอร์ม Facebook เช่น ในฟีดข่าว คอลัมน์ด้านขวาของเดสก์ท็อป และใน Stories ของ Facebook และ Instagram นอกจากนี้ยังขยายไปถึง Audience Network ซึ่งครอบคลุมพื้นที่นอกเหนือจาก Facebook เอง

จุดแข็งของ Facebook Ads อยู่ที่ความสามารถในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ละเอียดมาก ผู้ลงโฆษณาสามารถระบุกลุ่มเป้าหมายได้จากปัจจัยประชากรศาสตร์ เช่น อายุ เพศ ตำแหน่งที่อยู่ และภาษาที่พูด นอกจากนี้ Facebook ยังมีตัวเลือกการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ลึกกว่า เช่น ความสนใจ (เช่น งานอดิเรก ความบันเทิงที่ชอบ) พฤติกรรม (เช่น พฤติกรรมการซื้อ) และการเชื่อมต่อ (เช่น คนที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเพจหรืออีเว้นท์ของธุรกิจคุณ) การกำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียดนี้ทำให้โฆษณาเข้าถึงคนที่มีแนวโน้มจะสนใจสินค้าหรือบริการของคุณได้มากที่สุด ทำให้โฆษณามีความเกี่ยวข้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Facebook Ads ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาดที่หลากหลาย ตั้งแต่การสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ การเพิ่มทราฟฟิกเว็บไซต์ ไปจนถึงการสร้างลีดและเพิ่มยอดขาย ซึ่งแพลตฟอร์มนี้มีรูปแบบโฆษณาที่หลากหลายเพื่อรองรับเป้าหมายที่แตกต่างกัน เช่น โฆษณารูปภาพ โฆษณาวิดีโอ โฆษณา Carousel (ที่แสดงรูปภาพหรือวิดีโอหลายรายการในโฆษณาเดียว) และฟอร์แมตอินเตอร์แอคทีฟอย่าง Instant Experiences ผู้ลงโฆษณาสามารถตั้งงบประมาณสำหรับแคมเปญได้เองและเลือกว่าจะจัดสรรงบนี้อย่างไรในช่วงเวลาที่กำหนด ด้วยเครื่องมือวิเคราะห์และรายงานที่ครบครัน Facebook Ads ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถวัดผลประสิทธิภาพของโฆษณาแบบเรียลไทม์ พร้อมด้วยข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญ เช่น จำนวนการแสดงผล การเข้าถึง และอัตราการแปลง ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการประเมินความสำเร็จของแคมเปญและวางแผนกลยุทธ์ในอนาคต

การทำให้โฆษณา Facebook ของคุณมีประสิทธิภาพต้องใช้กลยุทธ์ที่รวมความคิดสร้างสรรค์ ความแม่นยำในการกำหนดเป้าหมาย และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง นี่คือวิธีที่คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา Facebook ของคุณได้:

  1. ภาพที่ดึงดูดใจ: เนื่องจาก Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นด้านภาพ การใช้ภาพหรือวิดีโอคุณภาพสูงและน่าสนใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ ภาพของคุณต้องโดดเด่นในฟีดของผู้ใช้และดึงดูดให้พวกเขามีส่วนร่วมกับเนื้อหาของคุณ

  2. ข้อความที่ชัดเจนและกระชับ: ข้อความในโฆษณาของคุณต้องสื่อสารคุณค่าของสิ่งที่คุณเสนอได้อย่างชัดเจน ควรใช้ข้อความที่กระชับแต่ทรงพลังพอที่จะจูงใจให้ผู้ใช้ทำตามเป้าหมาย อย่าลืมให้ข้อความของคุณสอดคล้องกับภาพและพูดถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายโดยตรง

  3. การเรียกร้องให้ดำเนินการ (CTA) ที่น่าสนใจ: ทุกโฆษณาควรมี CTA ที่ชัดเจน บอกผู้ใช้ให้ทราบถึงสิ่งที่คุณต้องการให้พวกเขาทำ เช่น “ซื้อเลย”, “เรียนรู้เพิ่มเติม” หรือ “สมัครสมาชิก” ซึ่งปุ่ม CTA บน Facebook สามารถช่วยเพิ่มอัตราการแปลงได้อย่างมาก

  4. การกำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ: ใช้ตัวเลือกการกำหนดกลุ่มเป้าหมายของ Facebook อย่างละเอียด เพื่อระบุกลุ่มเป้าหมายของคุณได้อย่างถูกต้อง ลองใช้กลยุทธ์การแบ่งกลุ่มที่แตกต่าง เช่น การกำหนดเป้าหมายตามพฤติกรรม ความสนใจ ข้อมูลประชากร หรือแม้กระทั่งสร้างกลุ่มเป้าหมายที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจของคุณ

  5. การทดสอบและปรับปรุงเป็นประจำ: ทำการทดสอบ A/B Testing เพื่อดูว่ารูปแบบโฆษณาใดทำงานได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ ข้อความ หรือกลุ่มเป้าหมาย จากนั้นใช้ข้อมูลจาก Facebook Analytics เพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์และปรับปรุงแคมเปญของคุณตามนั้น

  6. การจัดการงบประมาณ: ปรับงบประมาณโฆษณาของคุณตามผลลัพธ์ของแคมเปญ เพิ่มการลงทุนในโฆษณาที่ทำงานได้ดี และลดการใช้จ่ายหรือหยุดโฆษณาที่ไม่ได้ผล

หากปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้ คุณจะสามารถสร้างโฆษณา Facebook ที่ไม่เพียงแค่เข้าถึง แต่ยังเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ชัดเจน

Facebook มีรูปแบบโฆษณาหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการทางการตลาดและฟอร์แมตที่สร้างสรรค์ต่าง ๆ นี่คือประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด:

  1. โฆษณาภาพนิ่ง (Image Ads): เป็นโฆษณาแบบง่าย ๆ ที่ใช้ภาพเพียงภาพเดียวในการโปรโมตสินค้า หรือบริการ สร้างได้ไม่ยากและมีประสิทธิภาพมากเมื่อใช้ภาพและข้อความที่ตรงจุด

  2. โฆษณาวิดีโอ (Video Ads): ใช้คอนเทนต์วิดีโอเพื่อดึงดูดความสนใจได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากในการเล่าเรื่องหรือแสดงฟีเจอร์ของสินค้า

  3. โฆษณาแบบ Carousel: โฆษณานี้ช่วยให้คุณแสดงรูปภาพหรือวิดีโอได้ถึง 10 ชิ้นภายในโฆษณาเดียว แต่ละชิ้นสามารถมีลิงก์เป็นของตัวเอง เหมาะสำหรับการโปรโมตฟีเจอร์ที่หลากหลายของสินค้า แสดงสินค้าหลายตัว หรือเล่าเรื่องราวต่อเนื่องในแต่ละภาพ

  4. โฆษณาแบบสไลด์โชว์ (Slideshow Ads): เป็นการสร้างประสบการณ์แบบวิดีโอโดยใช้ภาพนิ่ง พร้อมเสียงและข้อความ โฆษณานี้กินแบนด์วิดธ์น้อยกว่าโฆษณาวิดีโอ เหมาะสำหรับการเข้าถึงผู้ชมที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ช้ากว่า

  5. โฆษณา Dynamic Product Ads: โฆษณานี้จะโปรโมตสินค้าที่ผู้ใช้เคยแสดงความสนใจโดยอัตโนมัติ เช่น ผ่านเว็บไซต์หรือแอปของคุณ เหมาะสำหรับการรีทาร์เก็ตกลุ่มเป้าหมาย โดยต้องมีการตั้งค่าคาตาล็อกสินค้าบน Facebook ก่อน

  6. โฆษณา Instant Experience (เดิมคือ Canvas): เป็นโฆษณาเต็มหน้าจอที่ออกแบบมาสำหรับมือถือ โหลดได้เร็วกว่าเว็บปกติ รวมภาพ วิดีโอ คารูเซล และปุ่ม CTA ได้ในหนึ่งเดียว

แต่ละประเภทโฆษณามีจุดประสงค์แตกต่างกัน และสามารถใช้เพื่อให้ตรงกับเป้าหมายทางการตลาดของคุณ เลือกใช้ประเภทโฆษณาที่เหมาะสมตามเป้าหมายของแคมเปญและการมีส่วนร่วมที่คุณต้องการ

การติดตามผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของโฆษณา Facebook เป็นสิ่งสำคัญในการประเมินประสิทธิภาพการใช้จ่ายโฆษณาและช่วยให้คุณตัดสินใจเกี่ยวกับแคมเปญในอนาคตได้อย่างมีข้อมูล นี่คือวิธีที่คุณสามารถติดตาม ROI ของโฆษณา Facebook ของคุณ:

  1. ตั้งค่าการติดตาม Conversion: ก่อนที่จะวัด ROI ได้ คุณต้องตั้งค่าการติดตาม Conversion ผ่าน Facebook Pixel หรือ Facebook Conversions API เพื่อดูพฤติกรรมของผู้ใช้หลังจากเห็นโฆษณา เช่น การซื้อ การสมัครรับข่าวสาร หรือการกรอกแบบฟอร์มติดต่อ

  2. ใช้ Facebook Ads Manager: เครื่องมือนี้ให้คุณวิเคราะห์แคมเปญโฆษณาได้อย่างละเอียด คุณสามารถดูรายงานเกี่ยวกับการเข้าถึง (reach) คลิก (clicks) การแปลง (conversions) และยอดขายที่เกิดขึ้นจากโฆษณาของคุณ Ads Manager ยังแสดงยอดใช้จ่ายของแต่ละโฆษณา ช่วยคำนวณค่าใช้จ่ายต่อผลลัพธ์ (cost per result)

  3. วิเคราะห์ข้อมูลการทำงาน: ให้เน้นที่เมตริกสำคัญ เช่น อัตราการคลิกผ่าน (CTR), ต้นทุนต่อคลิก (CPC), ต้นทุนต่อการกระทำ (CPA) และอัตราการแปลงทั้งหมด (conversion rate) การเปรียบเทียบเมตริกเหล่านี้กับงบประมาณที่ใช้จะให้ข้อมูลเชิงลึกว่าการใช้จ่ายนั้นมีประสิทธิภาพเพียงใด

  4. คำนวณ ROI: เพื่อคำนวณ ROI ของโฆษณา Facebook ให้นำรายได้ที่เกิดจากแคมเปญลบด้วยค่าใช้จ่ายของแคมเปญ จากนั้นนำผลลัพธ์ที่ได้หารด้วยค่าใช้จ่ายแคมเปญ แล้วคูณด้วย 100 เพื่อให้ได้เป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าคุณได้กำไรเท่าไหร่จากการใช้จ่ายในแต่ละดอลลาร์

  5. ทบทวนและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ: ตรวจสอบประสิทธิภาพของโฆษณาอย่างต่อเนื่องและปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การทดสอบองค์ประกอบโฆษณาและการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันจะช่วยให้คุณปรับปรุงแคมเปญและเพิ่ม ROI ได้ในระยะยาว

  6. ใช้เครื่องมือจาก Third-Party: พิจารณาใช้เครื่องมือวิเคราะห์จากภายนอกที่สามารถรวมเข้ากับ Facebook เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพแคมเปญและพฤติกรรมลูกค้าผ่านหลายช่องทาง

การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบจะช่วยให้คุณเข้าใจ ROI ของโฆษณา Facebook ได้อย่างชัดเจน และปรับกลยุทธ์การโฆษณาให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

ได้ หนึ่งในฟีเจอร์ที่ทรงพลังของ Facebook Ads คือความสามารถในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายไปยังผู้ใช้ที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณมาก่อน ซึ่งเรียกว่าการรีทาร์เก็ต (Retargeting) หรือรีมาร์เก็ตติ้ง (Remarketing) วิธีการนี้ใช้ Facebook Pixel ซึ่งเป็นโค้ดเล็ก ๆ ที่คุณติดตั้งบนเว็บไซต์เพื่อเก็บข้อมูลการเข้าชมและพฤติกรรมของผู้ใช้ เมื่อผู้ใช้กลับมาเยี่ยมชม Facebook คุณสามารถแสดงโฆษณาที่ตรงเป้าหมายต่อพวกเขาได้

การรีทาร์เก็ตด้วย Facebook Ads มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากโฟกัสไปที่กลุ่มผู้ใช้ที่เคยแสดงความสนใจในสินค้าหรือบริการของคุณแล้ว ทำให้มีโอกาสที่พวกเขาจะเปลี่ยนมาเป็นลูกค้ามากขึ้น คุณสามารถปรับแคมเปญรีทาร์เก็ตให้เหมาะสมกับการกระทำเฉพาะที่ผู้ใช้ทำบนเว็บไซต์ เช่น การเยี่ยมชมหน้าสินค้า การเพิ่มสินค้าลงในตะกร้า หรือการละทิ้งการซื้อ เพื่อกระตุ้นและเตือนให้พวกเขากลับมาทำธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์

นอกจากนี้ คุณยังสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายเฉพาะใน Facebook Ad Manager สำหรับผู้เยี่ยมชมประเภทต่าง ๆ เช่น ผู้ใช้ที่เข้าเว็บไซต์ในช่วง 30 วันที่ผ่านมาแต่ไม่ได้ทำการซื้อ หรือผู้ใช้ที่ใช้เวลาในการดูหน้าต่าง ๆ ของเว็บไซต์เป็นเวลานาน การทำแบบนี้ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งโฆษณาให้เหมาะกับความต้องการและความสนใจของแต่ละกลุ่มได้อย่างแม่นยำ

การรีทาร์เก็ตยังช่วยเพิ่มการรักษาลูกค้า (Customer Retention) โดยทำให้แบรนด์ของคุณอยู่ในใจของผู้ที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ล่าสุด เมื่อใช้กลยุทธ์รีทาร์เก็ตของ Facebook อย่างถูกต้อง คุณจะสามารถนำลูกค้ากลับมายังเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มอัตราการแปลง (Conversion Rate) และเพิ่ม ROI จากการโฆษณาของคุณ.

บทความที่เกี่ยวข้อง

เจาะลึกเทรนด์อุตสาหกรรม
ผ่านมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ