ยิงให้ตรงเป้า ดันเว็บให้ขึ้นท็อป ดึงทราฟฟิกแบบจัดเต็ม แล้วปั้นยอดให้ธุรกิจโตแบบก้าวกระโดด

ดันเว็บไซต์ให้ปัง ติดหน้าแรก Google ด้วยบริการ SEO สายโปรจากทีมผู้เชี่ยวชาญ เราเน้นจัดเต็มทั้งการวิเคราะห์คีย์เวิร์ด ปรับโครงสร้างเว็บไซต์ และสร้างแบ็กลิงก์คุณภาพ ช่วยเพิ่มทราฟฟิกแบบออร์แกนิก พร้อมปักหมุดธุรกิจคุณในผลการค้นหาท้องถิ่นอย่างเหนือชั้น กลยุทธ์ของเราถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์แต่ละธุรกิจแบบตรงจุด วัดผลได้จริง เปลี่ยนเว็บไซต์ธรรมดาให้กลายเป็นเครื่องจักรสร้างลูกค้าแบบต่อเนื่อง 

 

Shopify SEO: ปรับแต่งร้านค้า Shopify ของคุณเพื่อเพิ่มทราฟฟิกและยอดขาย

ปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของร้านค้า Shopify ด้วยกลยุทธ์ SEO ครบวงจรของเราที่ออกแบบมาเพื่อผลักดันการเติบโตและเพิ่มการแปลงยอดขาย

Shopify SEO เป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับเจ้าของร้านค้า Shopify ที่ต้องการเสริมสร้างการปรากฏตัวทางออนไลน์และเพิ่มยอดขาย กลยุทธ์ SEO แบบเฉพาะนี้ถูกออกแบบมาเพื่อปรับปรุงทั้งโครงสร้างและเนื้อหาของเว็บไซต์ Shopify ของคุณ เพื่อให้ร้านค้าของคุณมีอันดับสูงขึ้นในหน้าแสดงผลการค้นหา (SERPs) ยิ่งร้านค้าของคุณปรากฏในผลการค้นหาสูงขึ้นเท่าใด คุณก็จะได้รับทราฟฟิกจากการค้นหาแบบออร์แกนิกมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นและแบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น

 

อ่านเพิ่มเติม

การเพิ่มประสิทธิภาพร้านค้า Shopify นั้นประกอบไปด้วยหลายส่วน อันดับแรกคือการปรับ SEO ทางเทคนิคเพื่อปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ ซึ่งรวมถึงการทำให้เว็บไซต์ของคุณง่ายต่อการนำทาง ไม่เพียงสำหรับผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังสำหรับระบบการค้นหาของเสิร์ชเอนจินด้วย เว็บไซต์ที่มีโครงสร้างที่ดีพร้อมแท็กที่เหมาะสม URL ที่สะอาด และกลยุทธ์การเชื่อมโยงภายในที่มีประสิทธิภาพ จะถูกทำดัชนีและได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นโดยเสิร์ชเอนจินอย่าง Google นอกจากนี้ การเพิ่มความเร็วเว็บไซต์ การทำให้เว็บไซต์รองรับการใช้งานบนมือถือ และการใช้ HTTPS เพื่อความปลอดภัย ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ส่งผลดีต่อประสบการณ์ผู้ใช้และ SEO

นอกเหนือจากปัจจัยทางเทคนิคแล้ว Shopify SEO ยังรวมถึงการปรับเนื้อหา โดยการใช้คีย์เวิร์ดอย่างมีกลยุทธ์ในคำอธิบายสินค้า เมตาแท็ก ข้อความแทรกภาพ (Alt Text) และบทความบล็อกที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณ การระบุและใช้คีย์เวิร์ดที่มีการค้นหาสูงและเกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณ จะช่วยดึงดูดทราฟฟิกที่ตรงเป้าหมาย ซึ่งเป็นผู้ใช้ที่กำลังมองหาสินค้าที่คุณนำเสนออยู่

นอกจากนี้ Shopify SEO ยังรวมถึงการสร้างโปรไฟล์ลิงก์ย้อนกลับที่แข็งแกร่ง การได้รับลิงก์จากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือมายังร้านค้าของคุณ ถือเป็นสัญญาณที่สำคัญต่อเสิร์ชเอนจินว่าเว็บไซต์ของคุณมีความน่าเชื่อถือและมีอำนาจ ซึ่งจะช่วยเสริมอันดับของคุณให้ดียิ่งขึ้น

ด้วยกลยุทธ์ Shopify SEO ที่ครบวงจร ร้านค้าของคุณจะมีการมองเห็นที่ดีขึ้นในผลการค้นหา ดึงดูดทราฟฟิกที่ตรงเป้าหมายมากขึ้น และช่วยเพิ่มยอดขายในที่สุด การทำ SEO อย่างเป็นระบบนี้ทำให้ทุกองค์ประกอบของร้านค้า Shopify ตั้งแต่โครงสร้างทางเทคนิคไปจนถึงเนื้อหาถูกปรับแต่งเพื่อให้เหมาะสมกับเสิร์ชเอนจินและผู้ใช้ นำไปสู่ความสำเร็จของธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณ

เพิ่มทราฟฟิกแบบออร์แกนิกแบบเห็นผล

อ่านเพิ่มเติม

หนึ่งในข้อดีที่เห็นชัดของการทำ SEO บน Shopify คือการเพิ่มยอดคนเข้าเว็บจากเสิร์ชแบบธรรมชาติแบบก้าวกระโดด แค่ปรับเว็บไซต์ให้ตรงกับคีย์เวิร์ดที่ใช่ และให้เป็นไปตามมาตรฐานของ Google ก็ช่วยให้ร้านของคุณขึ้นอันดับบนหน้าค้นหาได้ง่ายขึ้น ยิ่งอยู่อันดับสูง ก็ยิ่งมีโอกาสที่ลูกค้าใหม่จะเจอร้านคุณก่อนใคร และที่สำคัญคือ คนที่มาจากเสิร์ชส่วนใหญ่มีความต้องการอยู่แล้ว แปลว่ามีโอกาสปิดการขายได้สูงแบบไม่ต้องเปลืองงบยิงแอด

ประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหล

อ่านเพิ่มเติม

การทำ SEO บน Shopify ไม่ได้มีดีแค่เรื่องอันดับใน Google แต่มันยังช่วยปรับโครงสร้างร้านออนไลน์ให้ใช้งานง่ายขึ้นด้วย ตั้งแต่เมนูนำทางที่เป็นมิตร โหลดไว ไม่ต้องรอนาน รองรับมือถือเต็มระบบ ทั้งหมดนี้ช่วยให้ลูกค้าอยู่ในเว็บนานขึ้น คลิกชมหลายหน้า ลด bounce rate และที่สำคัญคือเพิ่มโอกาสในการสั่งซื้อ เพราะลูกค้าหาเจอสิ่งที่ต้องการแบบไม่หัวร้อน

กลยุทธ์การตลาดคุ้มค่า ที่ให้ผลระยะยาว

อ่านเพิ่มเติม

การลงทุนทำ SEO บน Shopify คือหนึ่งในวิธีทำการตลาดที่คุ้มค่าที่สุด ต่างจากการยิงแอดที่ต้องจ่ายเรื่อย ๆ SEO คือการวางระบบให้เว็บติดอันดับแบบยั่งยืน ทำครั้งเดียวแต่ส่งผลต่อเนื่อง ดึงทราฟฟิกแบบออร์แกนิกเข้าร้านได้ตลอด โดยไม่ต้องเปลืองงบเพิ่ม ทำให้ ROI ดีขึ้นเรื่อย ๆ ในระยะยาว

ดึงคนที่ใช่ แล้วปิดการขายได้มากขึ้น

อ่านเพิ่มเติม

SEO ที่ดีไม่ได้แค่เพิ่มทราฟฟิก แต่ยังช่วยให้ Conversion Rates พุ่งแบบชัดเจน เพราะคนที่เสิร์จแล้วเจอร้านคุณมักเป็นคนที่ “พร้อมซื้อ” อยู่แล้ว ยิ่งถ้าเว็บมีการใส่คีย์เวิร์ดในคำอธิบายสินค้า รูปภาพ และคอนเทนต์อย่างแม่นยำ ก็ยิ่งตอบโจทย์ลูกค้าเป๊ะ ๆ โอกาสที่เค้าจะกดสั่งซื้อก็สูงขึ้นแบบไม่ต้องลุ้น

ชิงพื้นที่ในตลาดก่อนใคร ด้วยพลังของ SEO

อ่านเพิ่มเติม

ในโลก e-commerce ที่แข่งกันดุ การทำ SEO บน Shopify คือแต้มต่อที่แบรนด์ไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าเว็บคุณติดอันดับสูงกว่าเจ้าอื่นบน Google ก็เท่ากับได้พื้นที่โชว์ของก่อนใคร ยิ่งลูกค้าเห็นบ่อย ก็ยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือและสร้างความได้เปรียบได้แบบไม่ต้องแข่งราคา เหมาะมากทั้งกับแบรนด์ใหม่ที่อยากแจ้งเกิด และแบรนด์เดิมที่อยากรักษาพื้นที่ในใจลูกค้าให้อยู่หมัด

การสร้างแบรนด์ระยะยาวแบบยั่งยืน

อ่านเพิ่มเติม

SEO ไม่ใช่แค่เรื่องผลลัพธ์ระยะสั้น แต่มันคือการปูทางให้แบรนด์ของคุณเติบโตในระยะยาว การติดอันดับในหน้าค้นหาบ่อย ๆ ช่วยให้คนจำแบรนด์ได้ สร้างการรับรู้ และต่อยอดไปถึงความภักดีในใจลูกค้า ยิ่งประสบการณ์ในเว็บดี เสิร์ชแล้วเจอง่าย ลูกค้าก็ยิ่งไว้ใจและกลับมาซ้ำเรื่อย ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้แบรนด์แข็งแรงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และมีตัวตนในโลกออนไลน์ที่มั่นคงจริงจัง

โปรเจกต์

สำรวจผลงาน
โปรเจกต์โดดเด่นของเรา

คุณสมบัติเด่นของบริการ

สัมผัสประสบการณ์บริการที่ยอดเยี่ยม
อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ตรวจเช็ก SEO ด้านเทคนิคแบบละเอียด

อ่านเพิ่มเติม

การตรวจสุขภาพ SEO ด้านเทคนิคคือขั้นตอนสำคัญที่ช่วยเช็กว่าเว็บ Shopify ของคุณพร้อมติดอันดับจริงหรือยัง เราจะไล่เช็กตั้งแต่ลิงก์เสีย, sitemap ที่ต้องเปิดทางให้บอทเสิร์ชเข้าถึงได้, ความเร็วเว็บ, การรองรับมือถือ ไปจนถึงเรื่องความปลอดภัย ทุกจุดเล็ก ๆ ที่มองข้ามไป อาจเป็นตัวถ่วงอันดับแบบไม่รู้ตัว พอแก้ครบตรงจุด ก็ช่วยให้ Google เข้ามาเก็บข้อมูลได้ง่ายขึ้น เว็บก็พร้อมขึ้นอันดับแบบมั่นคง

ปรับหน้าเว็บให้แรงบนเสิร์ช

อ่านเพิ่มเติม

On-page Optimization คือการปรับแต่งหน้าสินค้าใน Shopify ให้ทั้ง Google ชอบ และลูกค้าคลิก ภารกิจของเราคือเขียนคำอธิบายสินค้าที่ดึงดูดใจ พร้อมใส่คีย์เวิร์ดให้แม่น ช่วยให้ติดอันดับได้ดีขึ้น แถมยังปรับภาพให้โหลดไวและคมชัด พร้อมจัดการ Meta Tags ให้สื่อสารตรงกับสิ่งที่ลูกค้าค้นหา ผลลัพธ์คือหน้าเว็บดูดีทั้งบนเสิร์ชและต่อหน้าลูกค้า เพิ่มทั้ง CTR และประสบการณ์การใช้งานแบบ win-win

สร้างเครือข่ายลิงก์ ปั้นเว็บให้ติดหน้าแรก

อ่านเพิ่มเติม

การมีแบ็คลิงก์คุณภาพคือกุญแจสำคัญที่ช่วยเพิ่มพลังให้เว็บ Shopify ของคุณดูน่าเชื่อถือในสายตา Google เราวางกลยุทธ์เชื่อมโยงเว็บจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณโดยตรง ยิ่งมีลิงก์ดี ๆ ชี้กลับมาเยอะ เว็บคุณก็ยิ่งมี authority สูงขึ้น ช่วยให้ขึ้นอันดับในหน้าค้นหาได้ง่ายขึ้น แถมยังได้ทราฟฟิกตรงจากลิงก์ที่คนนอกคลิกเข้ามา เพิ่มทั้ง SEO และการมองเห็นในเวลาเดียวกัน

FAQ

คำถามที่พบบ่อย:
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

Shopify SEO คือกระบวนการปรับแต่งร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Shopify เพื่อให้เป็นที่มองเห็นได้มากขึ้นในเครื่องมือค้นหา โดยมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดทราฟฟิกแบบออร์แกนิกมากขึ้น การทำ SEO สำหรับ Shopify รวมถึงเทคนิคและกลยุทธ์หลายอย่างที่ช่วยให้เว็บไซต์ Shopify มีอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหา (SERPs) ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการค้นพบผลิตภัณฑ์และความสำเร็จโดยรวมของร้านค้าออนไลน์

 

การทำ Shopify SEO ครอบคลุมส่วนสำคัญหลายประการ: เทคนิค SEO (Technical SEO): เพื่อให้เว็บไซต์มีโครงสร้างที่ดีและสามารถเข้าถึงได้โดย Search Engine Crawlers ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงความเร็วในการโหลด การทำให้เว็บไซต์รองรับการใช้งานบนมือถือ และการเชื่อมต่อผ่าน HTTPS เพื่อให้มีความปลอดภัย On-Page SEO: การปรับแต่งเนื้อหาบนเว็บไซต์ เช่น คำอธิบายสินค้า ภาพ และสื่อต่าง ๆ การใช้ คีย์เวิร์ด ที่ลูกค้าเป้าหมายมักค้นหาอย่างเป็นธรรมชาติในหัวข้อ, ชื่อเรื่อง, คำอธิบาย meta, และ alt text จะช่วยเพิ่มการจัดอันดับโดยไม่ทำให้ประสบการณ์ผู้ใช้ลดลง

 

Off-Page SEO: การสร้างลิงก์ย้อนกลับ (Backlink) ที่มีคุณภาพจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือเป็นอีกส่วนสำคัญ ลิงก์ย้อนกลับที่มีคุณภาพสูงบ่งบอกว่าเว็บไซต์ของคุณมีความน่าเชื่อถือและเชี่ยวชาญ ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มอันดับได้อย่างมาก

 

การติดตามและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง: เนื่องจากอัลกอริธึมของเครื่องมือค้นหามีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง การตรวจสอบและปรับปรุง SEO เป็นประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ร้านค้า Shopify ของคุณยังคงสามารถแข่งขันและดึงดูดทราฟฟิกแบบออร์แกนิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แม้ว่า Shopify SEO จะมีหลักการพื้นฐานคล้ายกับ SEO ทั่วไป เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพคีย์เวิร์ดและการสร้างลิงก์ย้อนกลับ แต่ก็มีลักษณะเฉพาะที่ทำให้ Shopify SEO มีความแตกต่าง เนื่องจาก Shopify เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการค้าออนไลน์ (e-commerce) ซึ่งมีทั้งข้อท้าทายและโอกาสในการปรับแต่งที่ต่างจากเว็บไซต์ทั่วไป

 

ประการแรก Shopify มีฟีเจอร์ SEO ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับ e-commerce เช่น การสร้าง Sitemap อัตโนมัติ และการแก้ไข robots.txt อย่างไรก็ตาม Shopify ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น การควบคุมองค์ประกอบ HTML ที่จำกัด และโครงสร้าง URL ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งอาจมีผลต่อวิธีการใช้กลยุทธ์ SEO

 

อีกหนึ่งความแตกต่างคือ Shopify SEO เน้นที่ Conversion Rate Optimization (CRO) ควบคู่ไปกับการสร้างทราฟฟิก สำหรับร้านค้า Shopify ไม่เพียงแค่ต้องการดึงดูดผู้เข้าชมเท่านั้น แต่ยังต้องการแปลงผู้เข้าชมเหล่านั้นให้กลายเป็นลูกค้าที่จ่ายเงิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับแต่งหน้าเพจสินค้า การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ และการทดสอบ A/B Testing เพื่อตรวจสอบว่าองค์ประกอบใดที่นำไปสู่การมีส่วนร่วมและการขายที่มากขึ้น

 

Local SEO เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับธุรกิจบน Shopify ที่มีสถานที่ตั้งจริง การเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการค้นหาในท้องถิ่นจึงมีความสำคัญ เช่น การตั้งค่า Google My Business และการตรวจสอบความถูกต้องของรายชื่อในท้องถิ่น

 

นอกจากนี้ รีวิวและคะแนนสินค้า ก็มีบทบาทสำคัญใน Shopify SEO เพราะเครื่องมือค้นหามองเห็นรีวิวเหล่านี้เป็นตัวชี้วัดความน่าเชื่อถือและคุณภาพของสินค้า ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มอันดับในหน้าผลการค้นหาได้ การกระตุ้นให้ลูกค้าทิ้งรีวิวและการจัดการรีวิวอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากกว่าสำหรับร้านค้า Shopify

การวิจัยคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับความสำเร็จของ Shopify SEO ซึ่งเกี่ยวข้องกับการระบุคำและวลีที่ลูกค้าที่มีศักยภาพใช้ในการค้นหาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณเสนอ แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดมีดังนี้:

 

  1. ใช้เครื่องมือวิจัยคีย์เวิร์ด: เครื่องมืออย่าง Google Keyword Planner, Ahrefs, SEMrush หรือ Moz Keyword Explorer ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณ รวมถึงข้อมูลปริมาณการค้นหา การแข่งขัน และความเกี่ยวข้อง

  2. วิเคราะห์คีย์เวิร์ดของคู่แข่ง: การดูคีย์เวิร์ดที่คู่แข่งของคุณกำลังใช้สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าและช่วยระบุช่องว่างในกลยุทธ์คีย์เวิร์ดของคุณเองได้ เครื่องมือที่วิเคราะห์กลยุทธ์ SEO ของคู่แข่งสามารถแสดงสิ่งที่ได้ผลสำหรับผู้อื่นในอุตสาหกรรมของคุณ

  3. พิจารณาเจตนาของผู้ใช้ (User Intent): การเข้าใจไม่เพียงแค่ว่าคีย์เวิร์ดใดที่ถูกค้นหา แต่รวมถึงเหตุผลที่ค้นหาก็มีความสำคัญ คีย์เวิร์ดสามารถแบ่งตามเจตนาของผู้ค้นหา เช่น ข้อมูล, การนำทาง, การทำธุรกรรม, หรือ การตรวจสอบเชิงพาณิชย์ สำหรับร้านค้า Shopify การเน้นคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม (transactional keywords) ซึ่งบ่งบอกถึงความพร้อมในการซื้อจะมีประโยชน์มากเป็นพิเศษ

  4. คีย์เวิร์ดแบบ Long-Tail: เป็นคำค้นหาที่ยาวและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ซึ่งมักถูกใช้เมื่อผู้ใช้ใกล้จะทำการซื้อหรือใช้การค้นหาด้วยเสียง คีย์เวิร์ดเหล่านี้มักมีการแข่งขันน้อยกว่าและมีเป้าหมายชัดเจน ส่งผลให้มีอัตราการแปลงที่สูงขึ้น

  5. การอัปเดตและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ: แนวโน้มคีย์เวิร์ดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามเวลาเมื่อมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นและความชอบของผู้บริโภคเปลี่ยนไป การอัปเดตการวิจัยคีย์เวิร์ดของคุณอย่างสม่ำเสมอเพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาประสิทธิภาพของกลยุทธ์ SEO

ใช่, กลยุทธ์ Shopify SEO มีบทบาทสำคัญในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเข้าถึงทราฟฟิกจากต่างประเทศ กลยุทธ์ SEO ของคุณควรครอบคลุมการทำ Localization ซึ่งหมายถึงการปรับแต่งเนื้อหาและความพยายามด้าน SEO ให้ตรงกับภาษาและวัฒนธรรมของตลาดเป้าหมายในแต่ละประเทศ

 

การทำ Localization รวมถึงการ แปลเนื้อหาเว็บไซต์ ให้เป็นภาษาต่าง ๆ และปรับให้เหมาะกับคำค้นหาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในแต่ละภูมิภาค อาจต้องใช้ Hreflang Tags ของ Google เพื่อระบุภาษาและการกำหนดเป้าหมายทางภูมิศาสตร์สำหรับเนื้อหา ซึ่งช่วยป้องกันปัญหาการทำซ้ำของเนื้อหาและเพิ่มความแม่นยำในการค้นหาสำหรับผู้ใช้ในภูมิภาคต่าง ๆ

 

นอกจากนี้ การทำ SEO ระหว่างประเทศสำหรับ Shopify อาจต้องมีการปรับโครงสร้างของเว็บไซต์เพื่อรองรับประเทศหรือภูมิภาคที่แตกต่างกัน เช่น การตั้งค่า Subdomains หรือ Subdirectories สำหรับแต่ละพื้นที่ การแสดง สกุลเงินและตัวเลือกการจัดส่ง ที่สอดคล้องกับแต่ละประเทศก็เป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีสำหรับลูกค้าระหว่างประเทศ

การติดตามความสำเร็จของการทำ SEO บน Shopify เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบเมตริกต่าง ๆ ที่สะท้อนถึงการมองเห็น ทราฟฟิก และการแปลงยอดขาย ซึ่งได้รับอิทธิพลจากกลยุทธ์ SEO ของคุณ

 

  1. เมตริกทราฟฟิก (Traffic Metrics): เครื่องมืออย่าง Google Analytics ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปริมาณทราฟฟิกที่เว็บไซต์ของคุณได้รับ แหล่งที่มาของทราฟฟิก และพฤติกรรมของผู้ใช้เมื่อเข้าชมเว็บไซต์ เมตริกสำคัญที่ควรติดตาม ได้แก่ ทราฟฟิกจากการค้นหาแบบออร์แกนิก (Organic Search Traffic), การเข้าชมหน้าเพจ (Page Views), และ อัตราการตีกลับ (Bounce Rate)

  2. เมตริกการแปลง (Conversion Metrics): สิ่งที่สำคัญมากกว่าทราฟฟิกคือการที่ทราฟฟิกนั้นเปลี่ยนเป็นยอดขาย อัตราการแปลง (Conversion Rate), มูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ย (Average Order Value) และ รายได้ทั้งหมดจากทราฟฟิกออร์แกนิก เป็นเมตริกที่สำคัญที่ช่วยให้คุณเข้าใจ ROI จากการทำ SEO ของคุณ

  3. เมตริกการจัดอันดับ (Ranking Metrics): การตรวจสอบอันดับของคีย์เวิร์ดที่คุณใช้อย่างสม่ำเสมอเป็นวิธีที่ดีในการประเมินประสิทธิภาพของกลยุทธ์คีย์เวิร์ดของคุณ เครื่องมืออย่าง Ahrefs, SEMrush หรือ Moz สามารถติดตามอันดับคีย์เวิร์ดของคุณในช่วงเวลาต่าง ๆ และในภูมิภาคต่าง ๆ ได้

  4. เมตริกการมีส่วนร่วมของลูกค้า (Customer Engagement Metrics): เมตริกการมีส่วนร่วม เช่น เวลาในการเข้าชมเว็บไซต์ (Time on Site), จำนวนหน้าต่อการเข้าชม (Pages per Session) และ อัตราการกลับมาของผู้เยี่ยมชม (Return Visitor Rate) สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกทางอ้อมเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ SEO ของคุณในด้านคุณภาพของเนื้อหาและการใช้งานเว็บไซต์

การตรวจสอบเมตริกเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอและการปรับกลยุทธ์ตามข้อมูลที่ได้รับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการทำ SEO บน Shopify ของคุณอย่างต่อเนื่อง การใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐานช่วยให้มั่นใจว่าความพยายามของคุณสอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจและแนวโน้มตลาด

บทความที่เกี่ยวข้อง

เจาะลึกเทรนด์อุตสาหกรรม
ผ่านมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ